ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึง กรณีการตรวจพบโรงเรียนเอกชนนอกระบบ 39 แห่ง มีการโฆษณาเกินจริง และอ้างว่าจะช่วยสร้างแผนการตลาด ลงทุนในธุรกิจการศึกษา มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทว่า ได้สั่งการให้เลขาธิการ กช. ไปตรวจสอบโดยเร่งด่วนเพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และหากพบว่ามีความผิด พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติมจริง ก็ขอให้ดำเนินการให้ไปตามกฏหมาย เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนในในการกระทำผิดดังกล่าว นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้มอบหมายให้นิติกร สช. ไปร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังจากที่มีการตรวจสอบพบมีการโฆษณาเกินจริง และมีการชักชวนลงทุน โดยอ้างว่า จะช่วยสร้างแผนการตลาด ลงทุนในธุรกิจการศึกษา มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท และมอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั้ง 31 จังหวัด ที่มีโรงเรียนเอกชนนอกระบบดังกล่าวเปิดสอนโดยไม่ได้ขออนุญาตตั้งอยู่ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษในจังหวัดของตัวเอง ภายใน 7 วัน ขณะที่ สช. ได้แจ้งกรมสรรพากร ตรวจสอบการชำระภาษี และแจ้งสำนักงานตรวจสอบคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบครู/ผู้สอบชาวต่างชาติ และแจ้งกรมการจัดหางานตรวจสอบ work permit ในเรื่องของการเข้ามาทำงานว่า ได้เข้ามาอย่างถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงเรียนเอกชนนอกระบบดังกล่าวยังมีการโฆษณาทั้งทางโทรทัศน์ และ social media ถึงค่าแฟรนไชส์ในการลงทุนอยู่ที่ 390,000 บาท ให้สิทธิ 1 อำเภอ 1 สาขา และมีการขายแฟรนไชส์ไปแล้ว 64 แห่ง สอนภาษาอังกฤษเด็กอายุ 4-12 ปีและยังมีแยกย่อยเป็นคอร์ส 5-6 ขวบ คอร์สละ 2,900 บาท 3-4 ขวบ คอร์สละ 1,500 บาท เลขาธิการ กช. กล่าวเพิ่มเติมว่า มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่า มีโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ได้สร้างความเดือดร้อน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่า โรงเรียนดังกล่าวเปิดสอนโดยไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้ง ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 120 การจัดตั้งโรงเรียนนอกระบบต้องได้รับการอนุญาตจาก สช. หากไม่ได้รับอนุญาตถือว่ามีความผิดตามกฎหมายโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว หากประชาชนพบเห็นโรงเรียนเอกชนใดที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้ง สามารถแจ้งข้อมูลถึง สช.ได้ และหากประชาชนต้องการตรวจสอบว่าโรงเรียนที่จะสมัครเรียนเป็นโรงเรียนเถื่อนหรือไม่ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จาก สช. On Mobile