จากกรณี พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส รายงานด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และผู้ที่เกี่ยวข้องว่า อาวุธปืน AK 102 ของอส.เมืองนราธิวาส ที่อยู่ในกองร้อยฯ ที่ 2 ได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.64 ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 เวลา 14.10 น. ได้มี นายมะยูโซ๊ะ กูเตะ ปลัดอำเภอเมืองนราธิวาส เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส แจ้งว่า ตนเองได้รับมอบอำนาจจาก นายยะยาห์ ปะนาฆอ นายอำเภอเมืองนราธิวาส ให้มาร้องทุกข์ให้มีการดำเนินคดีกับคนร้ายจากกรณีได้ตรวจสอบกองคลังของกองรอย อส.ที่ 2 พบว่าอาวุธปืน AK 102 จำนวน 28 กระบอก สูญหายไป
ล่าสุด นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าฯ นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส เป็นประธาน และมี รอง ผอ.รมน.ฝ่ายทหาร รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ปลัดจังหวัด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมาย ว่าการสูญหายของอาวุธปืนเกิดขึ้นเมื่อไรและอย่างไร แต่เบื้องต้นที่ทำการตรวจสอบนั้น อาวุธปืนทั้ง 28 กระบอกไม่ได้หายพร้อมกันในคราวที่เจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งความ แต่ปืนได้ทยอยหายไปในปี พ.ศ.2555 เป็นต้นมา
"ผมให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทำงาน 7 วัน เพื่อไปตรวจสอบให้ได้ว่านับตั้งแต่ปี 2555 อาวุธปืนได้สูญหายไปกี่กระบอก และมีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการสูญหาย ยกตัวอย่างเช่น มีใครเข้าไปดำเนินการในลักษณะอย่างไร ซึ่งอาจจะมีการสูญหายโดยลักขโมย หรือ มีเจ้าหน้าที่นำออกไป อันนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริงเพื่อความชัดเจน ว่าการสูญหายนั้นมีในช่วง พ.ศ.ใดบ้าง และมีใครเป็นผู้รับผิดชอบตามลำดับ"
ผู้ว่าฯ นราธิวาส ยังกล่าวว่า ในเบื้องต้นเราเจาะจงที่เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมอาวุธปืน แต่ละส่วนมีใครที่บกพร่อง ละเลย ละเว้น หรือมีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง จุดนี้ต้องแยกหลายประเด็นหลายส่วน เราจะมีการสอบสวนทางคดีอาญา ทางวินัยและทางแพ่งกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และอาวุธปืนที่สูญหายไปอยู่ในกลุ่มไหนอย่างไร