เจอสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดก็ยังแย่กันอยู่แล้ว เจ้าของร้านโชห่วยที่จ.อุดรธานีทุกข์ใจหนัก บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกหน.แผนกห้างดังตุ๋นเงินร่วม 10 ล้านบาท วอนช่วยเหลือที
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี นายประพัทธ์ สุรชวาลา อายุ 59 ปี เจ้าของกิจการร้านค้าส่ง "เจ๊เล้ง" ซ.กำนัน เขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมผู้เสียหายผู้ประกอบการร้านโชว์ห่วยอีก 9 คน ประกอบด้วย น.ส.ปิยะมาศ โพศาราช, นายวิทยา เนตรพัฒนกุล, นายธีระวัฒน์ นิมมาศุภวงศ์รัฐ, นายสมชาย เกวลิน, นายอานุภาพ พลศักดิ์ขวา, นายโชติชัชวาล บุญบำรุง, นายประพัทธ์ สุรชวาลา, น.ส.ปาริชาติ สิมทอง และนายทนุธรรม อภิไกรสิน ได้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี กรณีได้รับความเดือดร้อนกรณีถูกหน.แผนกของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง สาขาอุดรธานี ไม่ส่งสินค้าให้ มูลค่าความเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท โดยมีนายนายตฤณ เบ็ญจจินดา นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานีรับเรื่องร้องทุกข์
นายประพัทธ์ สุรชวาลา เปิดเผยว่า วันนี้เรามาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานีกรณีเราทำการซื้อขายสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี โดยมีตัวแทนเป็นหน.แผนกรายหนึ่งติดต่อซื้อขายสินค้ากับเรา บอกว่าจำหน่ายสินค้าราคาถูกมาก ให้กับร้านค้าโชห่วย โดยมีการชำระเงินแล้วแต่ไม่ได้สินค้า ผู้ประกอบการหลายรายเสียเงินเกือบ 10 ล้านบาทโดยขอให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นคนกลางประสานงานไกล่เกลี่ยความเดือดร้อนในครั้งนี้ ยอมรับว่าเราทำการซื้อขายกันมาแล้วหลายปีโดยทางห้างสรรพสินค้าและมอบหมายให้พนักงานรายนี้เป็นผู้ดูแลซื้อขายกันมาโดยตลอดแต่เมื่อเดือนที่แล้วล่าสุดเมื่อเกิดปัญหาไม่ส่งสินค้าให้ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าแล้วก็เกือบ 10 ล้านบาท เมื่อเกิดเดือนเราก็ได้ทำการพูดคุยกับผู้จัดการสาขาผู้จัดการสาขาก็ให้คำตอบว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนและหาทางแก้ไขให้แต่เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเกือบ 1 เดือนยังไม่มีท่าทีว่าจะได้รับคำตอบซึ่งความเสียหายดูแล้วเป็นจำนวนมากทุกคนจึงเข้าแจ้งความได้เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม
นายตฤณ เบ็ญจจินดา นิติกรศูนย์ดำรงธรรมฯ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและเอกสารประกอบการร้องเรียนไว้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องจากนี้ ซึ่งต่อไปทางเราจะได้ทำหนังสือเรียนเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติต่อไป
ด้านผู้ประกอบการชาวอำเภอกุดจับท่านหนึ่งระบุว่า ตัวเองเป็นคู่ค้ากับทางห้างนี้มาระยะเวลา 2 ปีกว่า โดยมีพนักงานชื่อปูแต่ละครั้งติดต่อซื้อสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เมื่อซื้อแล้วก็จะมีพนักงานขับรถมาส่งที่ร้านค้า พักหลังมานี้เริ่มไม่ส่งสินค้าทั้งที่จ่ายเงินโอนเงินไปให้แล้ว พอเราติดต่อสอบถามไปพนักงานก็แจ้งกลับมาว่าไม่มีของ ไม่มีสินค้า สินค้าไม่เข้า ล่าสุดนี้ตอนสูญเงินไปแล้วกว่า 1,200,000 บาท
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 9 ราย เมื่อสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาให้กับ นางสาว ป.นามสมติ อายุ 45 ปี ชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกขายส่งสินค้า บริษัท แห่งหนึ่งจำกัด (มหาชน) สาขาอุดรธานี (ห้างฯอุดรธานี ) เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกงทรัพย์ อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการปล่อยตัว น.ส.ป.ไปชั่วคราว และจะเรียกมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป/
นายประพัทธ์ สุรชวาลา เปิดเผยว่า วันนี้เรามาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานีกรณีเราทำการซื้อขายสินค้ากับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี โดยมีตัวแทนเป็นหน.แผนกรายหนึ่งติดต่อซื้อขายสินค้ากับเรา บอกว่าจำหน่ายสินค้าราคาถูกมาก ให้กับร้านค้าโชห่วย โดยมีการชำระเงินแล้วแต่ไม่ได้สินค้า ผู้ประกอบการหลายรายเสียเงินเกือบ 10 ล้านบาทโดยขอให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นคนกลางประสานงานไกล่เกลี่ยความเดือดร้อนในครั้งนี้ ยอมรับว่าเราทำการซื้อขายกันมาแล้วหลายปีโดยทางห้างสรรพสินค้าและมอบหมายให้พนักงานรายนี้เป็นผู้ดูแลซื้อขายกันมาโดยตลอดแต่เมื่อเดือนที่แล้วล่าสุดเมื่อเกิดปัญหาไม่ส่งสินค้าให้ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าแล้วก็เกือบ 10 ล้านบาท เมื่อเกิดเดือนเราก็ได้ทำการพูดคุยกับผู้จัดการสาขาผู้จัดการสาขาก็ให้คำตอบว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนและหาทางแก้ไขให้แต่เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเกือบ 1 เดือนยังไม่มีท่าทีว่าจะได้รับคำตอบซึ่งความเสียหายดูแล้วเป็นจำนวนมากทุกคนจึงเข้าแจ้งความได้เดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม
นายตฤณ เบ็ญจจินดา นิติกรศูนย์ดำรงธรรมฯ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและเอกสารประกอบการร้องเรียนไว้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องจากนี้ ซึ่งต่อไปทางเราจะได้ทำหนังสือเรียนเชิญผู้ประกอบการเข้ามาพูดคุยเจรจาเพื่อหาข้อยุติต่อไป
ด้านผู้ประกอบการชาวอำเภอกุดจับท่านหนึ่งระบุว่า ตัวเองเป็นคู่ค้ากับทางห้างนี้มาระยะเวลา 2 ปีกว่า โดยมีพนักงานชื่อปูแต่ละครั้งติดต่อซื้อสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เมื่อซื้อแล้วก็จะมีพนักงานขับรถมาส่งที่ร้านค้า พักหลังมานี้เริ่มไม่ส่งสินค้าทั้งที่จ่ายเงินโอนเงินไปให้แล้ว พอเราติดต่อสอบถามไปพนักงานก็แจ้งกลับมาว่าไม่มีของ ไม่มีสินค้า สินค้าไม่เข้า ล่าสุดนี้ตอนสูญเงินไปแล้วกว่า 1,200,000 บาท
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 9 ราย เมื่อสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาให้กับ นางสาว ป.นามสมติ อายุ 45 ปี ชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ตำแหน่ง หัวหน้าแผนกขายส่งสินค้า บริษัท แห่งหนึ่งจำกัด (มหาชน) สาขาอุดรธานี (ห้างฯอุดรธานี ) เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์และการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกงทรัพย์ อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีการปล่อยตัว น.ส.ป.ไปชั่วคราว และจะเรียกมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป/