เจ้าหน้าที่ ตชด.43 จับกุมนักค้ายาเสพติดข้ามชาติเครือข่ายชาวลาวยึดยาบ้าได้ 200,000 เม็ด มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งซุกซ่อนไว้ในยางอะไหล่รถฟอร์จูนเนอร์และนำมาส่งให้ลูกค้าตามจุดนัดหมายในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา
วันนี้(25พ.ค.64)เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด นำโดยชุดข่าวลับกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่43 ร่วมกับ ตชด.436 จ.สตูล ชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 9 และ ทหาร มทบ.42 นำโดย พล.ต.ต วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช. รรท.ผบก.ตชด.ภาค 4 พ.ต.อ.สถาพร แก้วสนิท ผกก.ตชด.43
จับกุม นายพิพัฒน์ หนูพัน หรือพัฒน์ อายุ 50 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติเครือข่ายชาวลาว ยึดยาบ้าได้100 มัด จำนวน 200,000 เม็ด มูลค่า 2 ล้านบาท โดยถูกจับกุมได้ที่ริมถนนสาย 408 หมู่ 2 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา
ขณะขนยาบ้า 50 มัด จำนวน 100,000 เม็ดมากับรยี่ห้อถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน 2 กต 4550 กรุงเทพฯ โดยซุกซ่อนไว้ในล้ออะไหล่รถยนต์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนขยายผลไปยึดยาบ้าได้อีก 50 มัดจำนวน 100,000 เม็ด ที่นำไปวางไว้ใต้โคนเสาไฟฟ้าห่างจากจุดแรกราว 20 เมตร
จากการสอบสวนนายพิพัฒน์ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนยาบ้ามาจากนายหนุ่ม ชาวลาว จาก จ.นครพนม มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.สงขลา กระจายไปใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองสงขลา หาดใหญ่ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ได้ค่าจ้าง 400,000 แสนบาท หรือมัดละ 4,000 บาท
โดยลักลอบขนสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 50 มัด 100,000 เม็ด ครั้งที่สอง 70 มัด 140,000 เม็ด และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน ส่วนเงินค้าจ้างได้รับมาก้อนหนึ่งแล้วจำนวน 30,000 ส่วนที่เหลือ นายหนุ่ม จะโอนผ่านทางบัญชีธนาคารเมื่องานสำเร็จ
นายพิพัฒน์ ยังให้การอีกว่าเริ่มเข้าสู่วงการค้ายาเสพติดตอนไปอยู่กับภรรยา ที่ จ.นครพนม และได้ถูกจับกุมคดียาเสพติดระหว่างที่ถูกจับกุมอยู่ที่เรือนจำ จ.นครพนม ได้รู้จักกับนายสี สีหราช ชาวลาวในคุก
และเป็นคนติดต่อให้รู้จักกับ นายหนุ่ม คนลาวที่เป็นนักค้ายารายใหญ่ที่อาศัยอยู่ในฝั่งลาว เมื่อพ้นโทษออกมาจึงได้ติดต่อกับนายหนุ่มเพื่อรับจ้างขนยาเสพติดจาก จ.นครพนม มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยนายหนุ่ม จะเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้าเองและจะส่งเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าเพื่อนัดหมายรับส่งยาเสพติด
สำหรับการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลา3 วันในการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้ขณะขนยาบ้ามาวางไว้ตามจุดต่างๆในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา และต้องเค้นสอบ1 คืนเต็มจึงยอมรับสารภาพซัดทัดไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่ง สภ.เมืองสงขลา เพื่อดำเนินคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
โดยลักลอบขนสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก 50 มัด 100,000 เม็ด ครั้งที่สอง 70 มัด 140,000 เม็ด และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน ส่วนเงินค้าจ้างได้รับมาก้อนหนึ่งแล้วจำนวน 30,000 ส่วนที่เหลือ นายหนุ่ม จะโอนผ่านทางบัญชีธนาคารเมื่องานสำเร็จ
นายพิพัฒน์ ยังให้การอีกว่าเริ่มเข้าสู่วงการค้ายาเสพติดตอนไปอยู่กับภรรยา ที่ จ.นครพนม และได้ถูกจับกุมคดียาเสพติดระหว่างที่ถูกจับกุมอยู่ที่เรือนจำ จ.นครพนม ได้รู้จักกับนายสี สีหราช ชาวลาวในคุก
และเป็นคนติดต่อให้รู้จักกับ นายหนุ่ม คนลาวที่เป็นนักค้ายารายใหญ่ที่อาศัยอยู่ในฝั่งลาว เมื่อพ้นโทษออกมาจึงได้ติดต่อกับนายหนุ่มเพื่อรับจ้างขนยาเสพติดจาก จ.นครพนม มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยนายหนุ่ม จะเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้าเองและจะส่งเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าเพื่อนัดหมายรับส่งยาเสพติด
สำหรับการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติรายนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลา3 วันในการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้ขณะขนยาบ้ามาวางไว้ตามจุดต่างๆในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา และต้องเค้นสอบ1 คืนเต็มจึงยอมรับสารภาพซัดทัดไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งหมด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่ง สภ.เมืองสงขลา เพื่อดำเนินคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย