จากกรณีคดีฉ้อโกงประชาชนในการชักชวนลงทุนของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เพื่อการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ ทั้งในรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ การออมต่างๆ โดยมีผลกำไรจากการลงทุนมาล่อใจ ถือว่าไม่ใช่การตลาดแบบตรงหรือการขายตรงตาม พ.ร.บ.การตลาดแบบตรงและขายตรง พ.ศ.2545 ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิด ในเรื่องนี้ นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้กล่าวว่า การทำธุรกิจในลักษณะดังกล่าวจะต้องมีการรขออนุญาติจากคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ มีการขออนุญาติจดทะเบียนแต่กรณีของนายประสิทธิ์ ไม่ได้ระบุรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับธุรกิจที่จะไปลงทุน กรณีเช่นนี้เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่อย่างแน่นอน เนื่องจากพ.ร.บ.การตลาดขายตรงกำหนดเรื่องการได้รับผลตอบแทนในลักษณะการสมัครสมาชิกและได้ผลประโยชน์จากการชักชวนคนมาสมัครสมาชิก ถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ โดย นางนฤมล ได้บอกวิธีสังเกตุเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพ คือ 1.ธุรกิจที่แอบอ้างมีตัวตนหรือไม่ เพราะไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ตามหากต้องการที่จะเข้าไปซื้อหุ้นหรือลงทุน จะต้องเห็นตัวตนของธุรกิจนั้นๆเช่น ลงทุนกับธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานจะเห็นว่ามีกลุ่มพลังงานกี่บริษัท ดังนั้นบริษัท ที่เขาแอบบอ้างต้องมีตัวตน มีข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ มีข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนการซื่อหุ้นหรือตราสารทั้งหลาย พร้อมทั้งมีข้อมูลตรวจสอบของแต่ละหน่วยงาน 2.การลงทุนในรูปแบบที่ใช้วิธีการพูดเป็นการชักจูงด้วยการเอาผลกำไร และทรัพย์สินมาให้ดูว่ารวยขนาดไหน 3.ธุรกิจที่เกิดขึ้นหรืออ้างว่ามีสินค้า ดังนั้นหากเป็นธุรกิจแบบตรงจริงๆเห็นได้ง่ายแบบธุรกิจขายตรง เช่น แอมเวย์, กีฟฟาลีน และมีสทีน เหล่านี้คือการตลาดแบบตรงและการขายตรง ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้ได้มีการขออนุญาติจดทะเบียนที่คณะกรรมการคุมครองผู้บริโภค เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นนายทะเบียน ดังนั้นจึงต้องมีช่องทางที่สามารถตรวจสอบได้ว่าธุรกิจนั้นๆประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ สำหรับการร้องเรียนผ่านสามาคมผู้บริโภคที่ผ่านมานั้น มีผู้มาร้องเรียนแบบจริงจังเพียง1-3 ราย แต่กลุ่มก้อนที่เจอปัญหาเหล่านั้นมักจะมีการพูดคุยหารือกันในเฟซบุ๊คหรือในเพจของตัวเอง สุดท้ายก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนกรณีที่ผ่านมานั้นผู้เสียหายได้รับเงินค่าเสียหายหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องดูเป็นกรณี ซึ่งต้องดูว่าเส้นทางการเงินตรวจสอบแล้วสามารถที่จะอายัดทรัพย์สินหรือเงินได้หรือไม่ และต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจโดยเร็วเพื่อให้ตำรวจประสานไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่ง นางนฤมล กล่าวว่า ขณะนี้กลโกงมีหลากหลายรูปแบบในการลงทุน ซึ่งมองว่าหากผู้บริโภคจะมช้วิธีการลงทุนเพื่อเป็นการออมหรือเป็นการสร้างอนาคตให้ตัวเอง การศึกษาข้อมูลของการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ และการที่จะลงทุนกับธุรกิจที่ไม่มีตัวตน จะทำให้มีความเสี่ยง ซึ่งกลโกง การหลอกลวงที่พบในขณะนี้คือ แชร์ลูกโซ่และการพนันออนไลน์ แรกๆอาจจะได้มาบ้าง เพื่อให้ผู้เล่นตายใจ เล่นแล้วได้จริง จากนั้นผู้เล่นจะมีการบอกต่อว่าเล่นแล้วได้จริง เมื่อหลวมตัวเข้าไปเล่นทำให้หมดตัวได้ ดังนั้นหากจะลงทุนอะไรก็แล้วแต่ควรจะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดรอบครอบเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะไม่โดนหลอก