การเลือกตั้งเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 64 ที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของ เทศบาลตำบลอิสาณ ชี้ว่า "สุพจน์ สวัสดิพุทรา" อดีตนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ชนะ "อุชษณีย์ ชิดชอบ" อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ " กลุ่มอิสาณรวมพลัง " ด้วยคะแนน 5,999 กับ 3,495 คะแนน ห่างกัน 2,504 คะแนน
ส่งผลทำให้ กกต.ยังไม่สามารถประกาศผลการรับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ เนื่องจาก ยังมีข้อกังขาเรื่องการทุจริตซื้อเสียงในพื้นที่เทศบาลตำบลอิสาณ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของ กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนที่จะส่ง กกต.กลางพิจารณา
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา อุชษณีย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มอิสาณรวมพลัง เข้าพบ "ปิยนาฎ กลางพนม" ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือถามความคืบหน้ากรณีมีการทุจริตซื้อเสียงเมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม 2564 พบว่า มีการทุจริตซื้อเสียงเกิดขึ้น โดยผู้กระทำผิดชื่อ "กิตติศักดิ์ คะเรรัมย์" กับพวกรวม 2 คน ทำการซื้อเสียงเลือกตั้ง พร้อมหลักฐานที่ใช้ซื้อเสียงเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท เย็บติดกันเป็นชุดๆ ละ 5 ฉบับ จำนวน 5 ชุด เป็นเงิน 2,500 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยกิตติศักดิ์ รับสารภาพ ซึ่งในระหว่างนั้น ได้มีการถ่ายภาพนิ่ง และ คลิปวิดีโอของผู้ซื้อเสียงขณะถูกจับกุม ก่อนที่จะนำตัวผู้กระทำผิดและพวก ส่งสถานีตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ "พิเชษฐ ศรีนวลขาว" ผู้สมัคร สท. คือผู้เห็นเหตุการณ์ที่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น และ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่พิเชษฐ ผู้แจ้งความ ไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในบันทึกสอบปากคำ ล่าสุด อุชษณีย์ ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้ากรณีการทุจริตซื้อเสียง ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และผู้บังคับบัญชา แจ้งว่า "พยานหลักฐานอ่อน ได้เสนออัยการจังหวัด เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง"
และ อีกหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้น กรณี สุพจน์ กับพวก ร่วมกันถวายเงินทำบุญแก่พระสงฆ์ แล้วนำภาพการถวายเงินทำบุญลงเฟสบุ๊กหาเสียงเลือกตั้ง โดยขอให้เร่งสรุปเรื่องส่งไปยัง กกต.กลาง โดยด่วน เพื่อให้ กกต.กลาง จัดทำคำวินิจฉัยให้เสร็จสิ้น ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการตามที่กฏหมายกำหนดไว้ภายใน 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง 28 มีนาคม 64
พร้อมกันนี้อุชษณีย์ ได้ทำหนังสือร้องเรียน คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ ยื่นต่อ กกต.บุรีรัมย์ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 เมษายน64 จากนั้นทำหนังสือถึง ผอ.กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นครั้งที่ 2 เมื่อ 14 พฤษภาคม64 ให้ช่วยเร่งรัด การสืบสวน สอบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว และ วันที่ 17 พฤษภาคม64 ได้ทำหนังสือเร่งรัดคดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ เพื่อยื่น กกต.กลาง พร้อมส่งเอกสารหลักฐาน ภาพการทำบุญถวายซองแก่พระสงฆ์จำนวน 9 ภาพ ที่ได้มาจากการ แคป หน้าจอเฟสบุ๊ก ของ "ภัสพงษ์ สวัสดิ์พุทรา" ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอิสาณ เขต 1 หมายเลข 4 ซึ่งเป็นบุตรชาย ของสุพจน์ ซึ่งนำภาพต่างๆ เหล่านี้มาลงเฟสบุ๊กของตนไว้ ในวันที่ 21 มี.ค.2564 เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า มีเจตนานำภาพดังกล่าวมาประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้งและเพิ่มคะแนนนิยมจากประชาชน
รวมทั้งมีเจตนาจูงใจให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตำบลอิสาณ ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ให้กับสุพจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ หมายเลข 1 และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอิสาณ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ทั้ง 2 เขต รวม 13 คน
พร้อมกันนี้ได้ส่งคำวินิจฉัย กกต. เมื่อวันที่ 23 เมษายน62 ให้ใบส้ม แก่ "สุรพล เกียรติไชยากร" ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 หมายเลข 8 คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ ประกอบการพิจารณาวินิจฉัย
ทางด้านอุชษณีย์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาพบ ผอ.กกต.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ เพื่อขอทราบความคืบหน้า กรณีร้องคัดค้านการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งของเทศบาลอิสาณ ทั้ง 2 เรื่องมีความคืบหน้าอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ใกล้จะครบกำหนดเงื่อนเวลา 60 วัน ที่ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้ง เรื่องทุจริตซื้อเสียง ที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมหลักฐานได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ได้สร้างความเสียหายให้กับ กกต. และ ยังส่งผลถึง ผู้สมัคร คนอื่นๆ รวมถึง คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์
“ ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม โดยต้องการให้ กกต.บุรีรัมย์ เร่งดำเนินการสอบสวน และ วินิจฉัย นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างความกระจ่างและเป็นบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นในสังคม”
สำหรับ เทศบาลตำบลอิสาณ ห่างจากที่ว่าการ อ.เมืองบุรีรัมย์ ทางทิศตะวันตก ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 36.899 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 12,606 หลังคาเรือน แม้จะเป็นเทศบาลตำบล แต่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีลักษณะเป็นเมืองปริมณฑลที่รองรับการขยายตัวของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
ปัจจุบันตำบลอิสาณกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สนามฟุตบอล สนามแข่งรถ โรงแรมขนาดใหญ่ และโรงโม่หิน ทำให้เทศบาลตำบลอิสาณเปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจของเมืองบุรีรัมย์ ที่ทำให้หลายคนต้องการเข้าไปจับจองช่วงชิงพื้นที่!!
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา อุชษณีย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มอิสาณรวมพลัง เข้าพบ "ปิยนาฎ กลางพนม" ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อยื่นหนังสือถามความคืบหน้ากรณีมีการทุจริตซื้อเสียงเมื่อคืนวันที่ 27 มีนาคม 2564 พบว่า มีการทุจริตซื้อเสียงเกิดขึ้น โดยผู้กระทำผิดชื่อ "กิตติศักดิ์ คะเรรัมย์" กับพวกรวม 2 คน ทำการซื้อเสียงเลือกตั้ง พร้อมหลักฐานที่ใช้ซื้อเสียงเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท เย็บติดกันเป็นชุดๆ ละ 5 ฉบับ จำนวน 5 ชุด เป็นเงิน 2,500 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง โดยกิตติศักดิ์ รับสารภาพ ซึ่งในระหว่างนั้น ได้มีการถ่ายภาพนิ่ง และ คลิปวิดีโอของผู้ซื้อเสียงขณะถูกจับกุม ก่อนที่จะนำตัวผู้กระทำผิดและพวก ส่งสถานีตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ "พิเชษฐ ศรีนวลขาว" ผู้สมัคร สท. คือผู้เห็นเหตุการณ์ที่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น และ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่พิเชษฐ ผู้แจ้งความ ไม่ได้ลงลายมือชื่อไว้ในบันทึกสอบปากคำ ล่าสุด อุชษณีย์ ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้ากรณีการทุจริตซื้อเสียง ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และผู้บังคับบัญชา แจ้งว่า "พยานหลักฐานอ่อน ได้เสนออัยการจังหวัด เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง"
และ อีกหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้น กรณี สุพจน์ กับพวก ร่วมกันถวายเงินทำบุญแก่พระสงฆ์ แล้วนำภาพการถวายเงินทำบุญลงเฟสบุ๊กหาเสียงเลือกตั้ง โดยขอให้เร่งสรุปเรื่องส่งไปยัง กกต.กลาง โดยด่วน เพื่อให้ กกต.กลาง จัดทำคำวินิจฉัยให้เสร็จสิ้น ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการตามที่กฏหมายกำหนดไว้ภายใน 60 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง 28 มีนาคม 64
พร้อมกันนี้อุชษณีย์ ได้ทำหนังสือร้องเรียน คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ ยื่นต่อ กกต.บุรีรัมย์ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 เมษายน64 จากนั้นทำหนังสือถึง ผอ.กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นครั้งที่ 2 เมื่อ 14 พฤษภาคม64 ให้ช่วยเร่งรัด การสืบสวน สอบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว และ วันที่ 17 พฤษภาคม64 ได้ทำหนังสือเร่งรัดคดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ เพื่อยื่น กกต.กลาง พร้อมส่งเอกสารหลักฐาน ภาพการทำบุญถวายซองแก่พระสงฆ์จำนวน 9 ภาพ ที่ได้มาจากการ แคป หน้าจอเฟสบุ๊ก ของ "ภัสพงษ์ สวัสดิ์พุทรา" ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอิสาณ เขต 1 หมายเลข 4 ซึ่งเป็นบุตรชาย ของสุพจน์ ซึ่งนำภาพต่างๆ เหล่านี้มาลงเฟสบุ๊กของตนไว้ ในวันที่ 21 มี.ค.2564 เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า มีเจตนานำภาพดังกล่าวมาประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้งและเพิ่มคะแนนนิยมจากประชาชน
รวมทั้งมีเจตนาจูงใจให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตำบลอิสาณ ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ให้กับสุพจน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ หมายเลข 1 และผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอิสาณ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ทั้ง 2 เขต รวม 13 คน
พร้อมกันนี้ได้ส่งคำวินิจฉัย กกต. เมื่อวันที่ 23 เมษายน62 ให้ใบส้ม แก่ "สุรพล เกียรติไชยากร" ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 หมายเลข 8 คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์ ประกอบการพิจารณาวินิจฉัย
ทางด้านอุชษณีย์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาพบ ผอ.กกต.บุรีรัมย์ ครั้งนี้ เพื่อขอทราบความคืบหน้า กรณีร้องคัดค้านการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งของเทศบาลอิสาณ ทั้ง 2 เรื่องมีความคืบหน้าอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ใกล้จะครบกำหนดเงื่อนเวลา 60 วัน ที่ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทั้ง เรื่องทุจริตซื้อเสียง ที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมหลักฐานได้อย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ได้สร้างความเสียหายให้กับ กกต. และ ยังส่งผลถึง ผู้สมัคร คนอื่นๆ รวมถึง คดีถวายปัจจัยเป็นเงินแก่พระสงฆ์
“ ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม โดยต้องการให้ กกต.บุรีรัมย์ เร่งดำเนินการสอบสวน และ วินิจฉัย นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างความกระจ่างและเป็นบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นในสังคม”
สำหรับ เทศบาลตำบลอิสาณ ห่างจากที่ว่าการ อ.เมืองบุรีรัมย์ ทางทิศตะวันตก ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 36.899 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 12,606 หลังคาเรือน แม้จะเป็นเทศบาลตำบล แต่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ มีลักษณะเป็นเมืองปริมณฑลที่รองรับการขยายตัวของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
ปัจจุบันตำบลอิสาณกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สนามฟุตบอล สนามแข่งรถ โรงแรมขนาดใหญ่ และโรงโม่หิน ทำให้เทศบาลตำบลอิสาณเปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ขุมทรัพย์ทางเศรษฐกิจของเมืองบุรีรัมย์ ที่ทำให้หลายคนต้องการเข้าไปจับจองช่วงชิงพื้นที่!!