จากกรณีผู้ป่วยที่จ.ศรีสะเกษ ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาหายแล้วผลตรวจเชื้อเป็นลบ แต่เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งได้มีการทำพิธีศพด้วยความเร่งด่วน โดยผู้เสียชีวิตรายนี้ทางจังหวัดศรีสะเกษไม่นับรวมในยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดนั้น
รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “อ่านข่าวแล้วไม่สบายใจ ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในต่างจังหวัดคงมีอีกหลายรายเช่นรายนี้ ที่ผู้บริหารซึ่งรับผิดชอบให้ข่าวว่าเสียชีวิตจากเหตุอื่น ที่จริงหมอพวกนี้ถือว่าจงใจปกปิดข้อมูลทำให้ภาพรวมการเสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้ภาคความมั่นคงและภาคประชาชนไม่เห็นความสำคัญของปัญหาที่แท้จริง และไม่กวดขันเข้มงวดเพื่อช่วยลดการสูญเสียของการระบาดในวงกว้าง
ปัจจุบันแพทย์รุ่นใหม่โดยเฉพาะอายุรแพทย์ จะถูกสอนและเน้นย้ำความสำคัญการลงรหัสโรค การสรุปรายงานผู้ป่วย และการลงสาเหตุการเสียชีวิต ดังตัวอย่างที่ผู้ป่วยเป็นปอดอักเสบโควิดใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นเวลานานจนตรวจไม่พบเชื้อโควิดแล้ว ต่อมาเกิดปอดติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนและเสียชีวิต การสรุปสาเหตุการตายต้องเป็นโรคโควิด-19 โดยมีปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเป็นภาวะแทรกซ้อน เข้าใจว่าพวกนี้ชอบซุกขยะใต้พรม ตกแต่งตัวเลขในความรับผิดชอบให้ดูสวยงามเข้าไว้ คิดแล้วเศร้าใจแทนประชาชนไทย แต่ยังไงก็ไม่ขอเปลี่ยนประเทศ เพราะมันเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญของรักของหวงของผมไปแล้ว
ภาคการแพทย์น่าจะเป็นข้าราชการประจำกลุ่มหลังๆ ที่ถูกข้าราชการเมืองเข้าแทรกจนค่อยๆ สูญเสียอัตลักษณ์ด้านคุณธรรมจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมืองที่มาถูกช่องทางโดยการเลือกตั้ง หรือที่มาทางลัดโดยการตั้งกันเอง (ลากตั้ง) ล้วนไว้วางใจไม่ได้ทั้งนั้น”