เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษา และรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เพื่อติดตามภาพรวมของการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องพ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท เพราะรายละเอียดเรื่องดังกล่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจง แต่เป็นการหารือในภาพรวมแบบ กว้างๆ โดยเฉพาะประเด็นการเยียวยาประชาชนที่เคยทำ นำมาพิจารณาต่อยอดโครงการเยียวยาที่กำลังจะมีขึ้น รวมถึงพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจว่าจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้น จะยังไม่มีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เนื่องจากต้องรอให้โครงการ ม.33 เรารักกันและเราชนะเรียบร้อยเสียก่อนที่จะนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในช่วงเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ยังได้มีการหารือ เรื่องการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 ที่จะเข้าสภาวันที่ 31 พ.ค. - 2 มิ.ย.โดยเน้นที่ประเด็นการที่การชี้แจง เรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้การประชุมครม.ในวันที่ 1 มิ.ย.ยังมีตามปกติ รวมถึงหารือประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ที่จะเริ่มฉีดปูพรมในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ว่าจะมีการจัดกลุ่มคนทำงาน ค่าบริการที่เป็นภาคบริการ ร้านอาหารโรงแรมให้ฉีดควบคู่ไปกับกลุ่มเสี่ยง เจ็ดโรค ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง