สศช.ชี้ไวรัสระบาด นศ.จบใหม่เคว้ง จุรินทร์ ลุย "ยี่ปั๊วออนไลน์" ดันส่งออก

พิษโควิดอ่วม! "สศช."เผย Q1 ว่างงาน 7.6 แสนคน จบใหม่ 4.9 แสนคน เคว้ง-หนี้ครัวเรือนพุ่ง ด้าน "จุรินทร์" ยกทัพ" ยี่ปั๊วออนไลน์" ลุยขายสินค้าไทยทั่วโลก สู้โควิด-19ระบาดผ่าน "Virtual Event" คาดมีมูลค่าสั่งซื้อกว่า 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.64 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยถึงภาวะสังคมไตรมาส 1/2564 ด้านสถานการณ์แรงงาน ไตรมาส 1 ว่า การว่างงานเพิ่มขึ้นสูง โดยผู้ว่างงาน มีจำนวน 7.6 แสนคน สูงขึ้นหลังจากชะลอตัวลง ในช่วงครึ่งหลังของ ปี 63 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบ จากโควิด-19 แรงงานในภาคการท่องเที่ยวที่อาจถูกเลิกจ้างมากขึ้น รวมทั้ง ตำแหน่งงานอาจไม่เพียงพอ ในการรองรับนักศึกษาจบใหม่ ประมาณ 4.9 แสนคน ซึ่งขณะที่โครงการจ้างงาน กลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่และแรงงานคืนถิ่น ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ในปี 63 ซึ่งมีระยะเวลาการจ้างงานประมาณ 12 เดือน กำลังจะสิ้นสุดลงอาจส่งผลกระทบต่อแรงงานภายใต้โครงการประมาณ 1.4 แสนตำแหน่ง สำหรับหนี้สินครัวเรือน พบว่า ไตรมาส 4/63 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 14.02 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.9% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว "ตอนนี้เริ่มมีการนำเงินฝากหรือเงินออมออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้นในระยะถัดไปจะต้องมีมาตรการปรับ โครงสร้างหนี้เช่น ยืดเวลาชำระหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ภาคครัวเรือน มีสภาพคล่องนำไปใช้จ่ายรายเดือน และยังต้องเฝ้าระวังการก่อหนี้นอกระบบที่จะกลายมาเป็นปัญหาซ้ำเติม" ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ "DIT P ยี่ปั๊วออนไลน์ คอนเนค" ผ่าน Virtual Event ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับกลยุทธ์ เพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ ในการผลักดันการส่งออกในเชิงรุก ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 -28 พ.ค.64 เป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยให้ยังสามารถขายสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังประสบกับความท้าทาย จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ให้เร่งสร้างพาร์ทเนอร์การค้าและพากลุ่มยี่ปั๊วออนไลน์ รวมถึงแพลต ฟอร์ม ที่มีศักยภาพในแต่ละประเทศกว่า 80 ราย เพื่อเข้ามาเลือกซื้อสินค้าจากผู้ผลิตไทยโดยตรง จาก 1,200 บริษัท โดยใช้เทคโนโลยีการเจรจาการค้าออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นสินค้าไทยโลดแล่นบนแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆทั่วโลก ทั้งบน Alibaba.com, Amazon, Tmall Global, Bigbasket, DidiGlobal และอื่นๆ คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท "งานนี้นับเป็นงานอีคอมเมิร์ซระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ในรูปแบบเสมือนจริงหรือ Virtual e-Commerce Event โดยมีทั้ง Virtual seminar, booth, showcase ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี จากพาร์ทเนอร์ด้านอีคอมเมิร์ซ ที่ร่วมกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวได้ในยุค New Normal และเชื่อมั่นว่ากลุ่มยี่ปั๊วทั้งในและนอกประเทศที่มีความชำนาญในการขายของออนไลน์จะเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาและช่วยลดอุปสรรคของผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่พร้อมในการขายออนไลน์สู่ต่างประเทศด้วยตนเองให้เขามีโอกาสในการก้าวสู่ตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศได้"