วันที่ 24 พ.ค.64 เวลา 14.00 น.ที่กระทรวงแรงงาน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำแกนนำสหภาพแรงงานพนักงานบริษัทการบินไทย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรณีผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด ได้ใช้อำนาจเกินส่วนในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารและพนักงาน และเลิกจ้างพนักงานนอกขอบอำนาจของผู้ทำแผน โดนอ้างการปรับโครงสร้างองค์การใหม่ของลูกหนี้นั้น ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการไปในวันที่ 19 พ.ค.64 ที่ผ่านมา และศาลล้มละลายกลางได้นัดพิจารณาแผนเพื่อมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนหรือไม่ ในวันที่ 28 พ.ค.64 นี้ซึ่งครบกำหนดยื่นคำร้องข้อคัดค้านของเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิออกเสียงตาม ม.90/30 ของพรบ.ล้มละลาย พ.ศ 2483 ซึ่งยังไม่ได้ลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูแต่อย่างใด ดังนั้น การทำการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 508 คนของบริษัทเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการทำเอกเทศสัญญาขัดต่อพรบ.คุ้มครองแรงงาน 2541 การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการก่อภาระผูกพันในทรัพย์สินของบริษัทฯ ลูกหนี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตาม พรบ.ล้มละลาย พ.ศ 2483 ม.90/104(8) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตาม ม.90/123 เนื่องจากผู้บริหารแผนฯไม่มีอำนาจในการโยกย้าย ผู้บริหารและพนักงาน และไม่สามารถมอบอำนาจช่วงให้แก่ใครให้ใช้อำนาจแทนได้ เพราะอาจเข้าข่ายกระทำความผิดตาม ม.90/88 แห่ง พรบ.ล้มละลาย 2483 กล่าวคืออาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เนื่องจากรู้อยู่ว่าไม่มีอำนาจกระทำการโยกย้ายแต่งตั้งผู้บริหารและพนักงาน แต่ยังกระทำการดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำตัวแทนของสหภาพฯการบินไทยมาร้องเรียนต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งระงับการใช้อำนาจของนายจ้างที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายมิให้ทำการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 508 คนของบริษัท การบินไทย จำกัด จนกว่าศาลล้มละลายกลางจะได้มีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูแล้ว และบริษัทมีผู้มีอำนาจในฐานะนายจ้างที่แท้จริงต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด