"จุรินทร์" ยกทัพ "ยี่ปั๊วออนไลน์" ลุยขายสินค้าไทยไปนอกผ่าน Virtual Event วางเป้าหมาย "เร่งดันผู้ประกอบการรายย่อยขายออนไลน์ไปทั่วโลกง่ายขึ้น" คาดมีมูลค่าสั่งซื้อกว่า 100 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “DITP ยี่ปั๊วออนไลน์ คอนเนค”ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างแนวทางใหม่ๆ ในการผลักดันการส่งออกในเชิงรุก โดยโครงการ “DITP ยี่ปั๊วออนไลน์ คอนเนค” หรือ DITP’s Online Reseller Connect” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2564 เป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อยให้ยังสามารถขายสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศได้แม้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังประสบกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งสร้างพาร์ทเนอร์การค้าและพากลุ่มยี่ปั๊วออนไลน์รวมถึงแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในแต่ละประเทศกว่า 80 รายทั้งจากจีน อเมริกา อินเดีย ฮ่องกง อาร์เจนตินา ลาว ไนจีเรีย ฯลฯ เพื่อเข้ามาเลือกซื้อสินค้าจากผู้ผลิตไทยโดยตรงจาก 1,200 บริษัท โดยใช้เทคโนโลยีการเจรจาการค้าออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นสินค้าไทยโลดแล่นบนแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก ทั้งบน Alibaba.com, Amazon, Tmall Global, Bigbasket, DidiGlobal และอื่นๆ คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นับเป็นงานอีคอมเมิร์ซระดับนานาชาติที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยในรูปแบบเสมือนจริง หรือ Virtual e-Commerce Event โดยมีทั้ง Virtual seminar, booth, showcase ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพาร์ทเนอร์ด้านอีคอมเมิร์ซ ที่ร่วมกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวได้ในยุค New Normal และเชื่อมั่นว่ากลุ่มยี่ปั๊วทั้งในและนอกประเทศที่มีความชำนาญในการขายของออนไลน์จะเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาและช่วยลดอุปสรรคของผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่พร้อมในการขายออนไลน์สู่ต่างประเทศด้วยตนเองให้เขามีโอกาสในการก้าวสู่ตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศได้
"โดยให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งสร้างพาร์ทเนอร์การค้าและพากลุ่มยี่ปั๊วออนไลน์รวมถึงแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในแต่ละประเทศกว่า 80 รายทั้งจากจีน อเมริกา อินเดีย ฮ่องกง อาร์เจนตินา ลาว ไนจีเรีย ฯลฯ เพื่อเข้ามาเลือกซื้อสินค้าจากผู้ผลิตไทยโดยตรงจาก 1,200 บริษัท โดยใช้เทคโนโลยีการเจรจาการค้าออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นสินค้าไทยโลดแล่นบนแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ ทั่วโลก ทั้งบน Alibaba.com, Amazon, Tmall Global, Bigbasket, DidiGlobal และอื่นๆ คาดว่ามูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้นับเป็นงานอีคอมเมิร์ซระดับนานาชาติที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยในรูปแบบเสมือนจริง หรือ Virtual e-Commerce Event โดยมีทั้ง Virtual seminar, booth, showcase ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพาร์ทเนอร์ด้านอีคอมเมิร์ซ ที่ร่วมกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวได้ในยุค New Normal และเชื่อมั่นว่ากลุ่มยี่ปั๊วทั้งในและนอกประเทศที่มีความชำนาญในการขายของออนไลน์จะเป็นทางออกสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาและช่วยลดอุปสรรคของผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่พร้อมในการขายออนไลน์สู่ต่างประเทศด้วยตนเองให้เขามีโอกาสในการก้าวสู่ตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศได้