วันที่ 23 พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับ พ.ร.ก.เงินกู้จำนวน 7 แสนล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี ออกแบบลับๆล่อๆ ไม่มีการชี้แจงให้ประชาชนรับรู้ ท่านบอกว่า จะเป็นแผนงานการแก้ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ด้านสาธารณสุขจำนวน 3 หมื่นล้านบาท แผนงานในการเยียวยาประชาชน 4 แสนล้านบาท และแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมอีก 2.7 แสนล้านบาท ปีที่แล้วเราก็ออก พ.ร.ก.เงินกู้จำนวน 1.90 แสนล้านบาท มีด้านสาธารณสุขแล้วกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินกู้เราเสียดอกเบี้ย ท่านกู้เงินมาแล้ววัคซีนก็ไม่พร้อม แถมยังเป็นปัญหา
วันนี้ที่เขตคลองเตยมีการขายบัตรคิวก็ 3000 บาท เพื่อให้คนทั่วไปเข้าไปใช้สิทธิแทนคนในพื้นที่คลองเตยที่ได้รับสิทธิมาแต่ไม่มีกิน เป็นไปได้อย่างไร ที่วันนี้คนยอมตายเพราะไม่มีจะกิน ทั้งยัง มีข่าวกรณีที่ชาวบ้านรอรถมารับไปรักษานานถึง 5 วัน แต่ยังไม่มีคนมารับไปรักษา ทั้งที่อยู่ใกล้แคมป์คนงานหลักสี่ แล้วคุณใช้เงิน 4.5 หมื่นล้านที่เป็นงบฯด้านสาธารณสุขไปทำอะไร ทำไมยังปล่อยให้เกิดปัญหา แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการ และวัคซีนท่านบริหารจัดการสถานการณ์อย่างไร เพราะวันนี้ยังไม่มีวัคซีนให้ฉีดเลย กู้เงิน สร้างภาระให้ประเทศ ให้คนไทยรับผิดชอบ แต่กลับใช้เงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พรรคพท. เราไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินจำนวนมากแต่ใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เราจะปรับลดงบฯกลาโหมในพ.ร.บ.งบประมาณปี 65 ลงได้หรือไม่ วันนี้ รัฐบาลต้องจริงใจกับประชาชน เพราะวันนี้การจัดงบประมาณ งบฯกระทรวงกลาโหมได้มากกว่ากระทรวงสาธารณสุขอีก นอกจากนี้ เมื่อไม่มีกี่วันที่ผ่านมา ท่านยังแอบอนุมัติเอาเองเงินกู้พัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมไปให้ฝ่ายกลาโหมจำนวน 16,310 ล้านบาท เพื่อให้ทำศูนย์บำรุงอากาศยาน และรันเวย์อีก
"ผมขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ปรับลดงบฯ และเมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 65 เข้าสู่สภาฯ พรรคเพื่อไทยจะใช้โอกาสนี้ซักฟอกรัฐบาล และขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอย่าพายเรือให้พล.อ.ประยุทธ์นั่งอีกต่อไปเลย ขอให้ร่วมกันยกมือไม่รับหลักการในวาระที่ 1 ของร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 เพราะงบประมาณไม่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งหากร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ก็มี 2 ทางออก คือ ลาออก หรือยุบสภา"นายยุทธพงศ์ กล่าว