เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 พฤษภาคม 2564 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชูรินทร์ ขวัญทอง หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายกันตพงศ์ รังสีสว่าง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและบริการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมามอบหน้ากากอนามัย จำนวน 10,000 ชิ้น และนมผงสำหรับเด็กให้กับประชาชนจังหวัดยโสธร โดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายสมเพชร สร้อยสระคู นายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายชัยวัฒน์ ชัยเวชพิสิฐ ปลัดจังหวัด พร้อมด้วย นางสาววีรินทร์ นิตย์สุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยสธร รอง ผอ.รมน. จังหวัดยโสธร (ฝ่ายทหาร) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในพื้นที่จังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับและรับมอบหน้ากากอนามัย ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิอินทร์ ศาลากลกางจังหวัดยโสธร เพื่อนำไปมอบให้กับระชาชนกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่จังหวัดยโสธร เพื่อแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ยากไร้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม ได้กล่าวฝากความห่วงใยมายังประชาชนชาวจังหวัดยโสธรและประชาชนคนไทยทุกคน ให้ร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยปฎิบัติตัวตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และ ขอให้ทุกคนได้ลงทะเบียน และเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเชื่อมั่นว่าวัคซีนมีความปลอดภัย เนื่องจากตนเองฉีดครบ 2 เข็มแล้วไม่มีอาการใด ๆ จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นและฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้านนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้กล่าวว่าถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จังหวัดยโสธร มีผู้ป่วย 122 ราย รักษาหายแล้ว 79 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 41 ราย เสียชีวิต 3 ราย และรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม 63 ราย กลับบ้านแล้ว 40 ราย ทั้งนี้จังหวัดยโสธรมีประชากร 536,864 คน มีเป้าหมายการฉีดวัคซีน 109,484 ราย โดยมีมีผู้สูงอายุ 95,065 คน คนพิการ 21,430 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเป็นอันดับแรก