อาจารย์หมอศิริราชเผย ทั้งหมอ-พยาบาลสาหัสแบกงานหนักไม่มีวันหยุด คาดสัปดาห์หน้าเจอศึกแดงเดือด เตรียมรับมือวิกฤติ ระบุจากที่ค้นข้อมูลคาดคุณสมบัติยารักษาโควิด ฟาวิพิราเวียร์มีคุณสมบัติเรืองแสง เลยทำให้ไปสะสมได้ที่กระจกตา เล็บ ผิวหนัง แต่ไม่เป็นอันตรายใดๆ เมื่อหยุดใช้ยาจะหายไปเอง รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ “พวกเขาทำงานรับมือโควิดกันไม่มีวันหยุด แพทย์ทั้ง 7 คนมาช่วยกันราวด์ผู้ป่วยทั้งที่ไม่ได้อยู่เวร ส่วนพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิดเกือบร้อยคน วันหยุดอยู่เวรผลัดละ 12 ชม.ผลัดละแค่ 6-7 คน นับว่าหนักหนาสาหัสมากเพราะต้องทำทั้งหน้าที่พยาบาล เสมียน และคนงานไปในตัว ทางโรงพยาบาลกำลังจัดหาวิธีช่วยกันอยู่ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเริ่มศึกแดงเดือด 2-3 วันที่ผ่านมาเริ่มคัดแยกผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดรุนแรงต้องใช้ไฮโฟลว์ออกมารักษาในรพ.ได้วันละ 3-6 คน และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวจ่ายออกซิเจนที่กำลังทำเพิ่มเริ่มไม่พอใช้งาน ผู้ป่วยก็น่ารักมีสมบัติผลัดกันชมมีออกซิเจนผลัดกันดม พอช่วยบรรเทาอาการหอบเหนื่อยจากปอดอักเสบลงได้บ้าง ในระหว่างเร่งการก่อสร้างศิริราชจึงสนับสนุนหัวแบ่งจ่ายออกซิเจนและเครื่องผลิตออกซิเจนเคลื่อนที่ไปใช้งานชั่วคราวก่อน พร้อมระดมส่งเครื่องไฮโฟลว์เข้าไปช่วยเพิ่มอีก 15 เครื่อง เพราะที่มีใช้เดิม18 เครื่องเริ่มจะไม่พอแล้ว สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนตาเป็นสีฟ้า (ไม่ใช่เปลี่ยนประเทศ) ลองป่วยเป็นโควิดแล้วกินยาฟาวิพิราเวียร์ดู อาจเป็นดังผู้ต้องโทษในรูป จากข้อมูลที่สืบค้นได้ สันนิษฐานว่าตัวยาเองมีคุณสมบัติเรืองแสง โดยจะไปสะสมได้ที่กระจกตา เล็บ และผิวหนัง แต่ไม่ทำให้อวัยวะนั้นทำงานผิดปกติ และหายได้เองเมื่อหยุดยา (ภาพจากเพจ นิธิพัฒน์ เจียรกุล)