วันที่ 22 พ.ค.64 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด 19 ในระลอกใหม่ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14 ราย มียอดสะสมรวม 1,553 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 383 ราย ขณะที่ปัญหาการติดเชื้อโควิด 19 ของผู้ป่วยรายใหม่ มาจากคลลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 289 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่นำไปรักษาที่ รพ. หัวหิน สำหรับผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ให้พักดูอาการภายในโรงงาน ซึ่งปรับเป็น รพ.สนาม โดยคำสั่งจังหวัดประกาศขยายเวลาเปิด รพ.สนามในโรงงานสับปะรด ถึงวันที่ 27 พฤษภาคม นี้ นายแพทย์สุริยะ กล่าวว่า การติดเชื้อโควิด 19 ของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งที่ อ.หัวหิน อยู่ในสถานการณ์ที่น่าวิตก หลังจากโรงงานสับปะรดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งห่างจากโรงงานของบริษัท ควอลิตี้ฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม อาจจะต้องเรียกแรงงานต่างด้าว 650 คน เข้ามากักในโรงงาน ขณะที่แรงงานคนต่างด้าวของโรงงานแคลคอมป์ อ.เขาย้อย คลัสเตอร์โควิดที่ จ.เพชรบุรี มีความเชื่อมโยงกับแรงงานต่างด้าวใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีญาติที่ อ. เมือง อ.ปราณบุรี อ.หัวหิน และได้รับรายงานเบาะแสว่ามีการบรรทุกแรงงานพม่าจาก อ.เมืองประจวบฯไปส่งที่โรงงาน แคลคอมป์ “ขณะนี้มีแรงงานคนไทยจากโรงงาน แคลคอมป์แอบกลับบ้านที่ อ.เมืองฯแต่เจ้าหน้าที่ อสม. ได้ชี้เบาะแสกดดันให้ไปตรวจหาเชื้อ ผลตรวจออกมาเป็นบวก ส่วนเจ้าหน้าที่วิศวกรโรงวานเดียวกันกลับมาพักบ้านเพื่อนที่ อ.ปราณบุรี จากนั้นไปตรวจพบติดเชื้อ 2 ราย และยังพบ คนงาน ไทยในแคมป์ก่อสร้างที่ อ.กุยบุรี พักที่แคมป์คนงาน ต.บ่อนอก อ.เมือง ติดเชื้อโควิด 19 “นายแพทย์สุริยะ กล่าว นายแพทย์สุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้กำชับไปยังสาธารณสุขอำเภอทั้ง 8 อำเภอ จัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานอำเภอละ 4 ชุด ใช้มาตรการเข้มงวดประสานความร่วมมือกับ ศปภ ตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อส. อสม สืบค้นหาบุคคลที่ทำงานในโรงงานแคลคอมป์ แล้วเดินทางกลับบ้าน หากพบให้รีบกักตัว ทำการตรวจหาเชื้อทันที และต้องเตรียมจัดหาสถานที่กักตัวในพื้นที่ เช่น อาคารวัด โรงเรียนเก่า เพื่อรองรับหากมีผู้กักตัวเพิ่มจำนวนมาก ที่สำคัญที่สุดต้องตรวจเชิงรุกในแคมป์ก่อสร้างทุกแห่ง โรงงานที่มีแรงงานพม่า โรงงานสับปะรดกระป๋อง โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจให้มากที่สุด และเร็วที่สุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค