หนุ่มป่วยจิตคลั่งกระหน่ำแทงอดีตสารวัตรกำนัน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ดับคาร้านค้าต่อหน้าคนนับสิบ ต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ แต่ไม่มีใครกล้าห้ามกลัวถูกทำร้าย วงจรปิดที่ร้านบันทึกภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน ภรรยาเผยถูกผู้ก่อเหตุถ้ำมอง และตามคุกคามหลายครั้งจนรู้สึกกลัว ไม่คิดจะลงมือฆ่าสามีอย่างโหดเหี้ยม ขอให้ลงโทษตาม กม.ถึงที่สุด
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. (21 พ.ค.64) ร.ต.อ.ธงรัฐฐ์ เขียวสนาม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนแทงกันเสียชีวิต ที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งในหมู่บ้านสายตรี 8 ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.บ้านกรวด และหน่วยกู้ภัยฯ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างนายทรงเดช ลดจันทร์ อายุ 44 ปี เป็นอดีตสารวัตรกำนันตำบลบึงเจริญ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นปูนหน้าร้านค้า ในสภาพสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้น เลือดไหลท่วมตัว ตรวจสอบเบื้องต้นพบถูกของมีคมแทงบริเวณท้ายทอย ขาข้างขวา และตามลำตัวหลายแผล จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ก่อเหตุแทงนายทรงเดช คือนายเดชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านผู้ก่อเหตุ พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมารณ 50 เซนติเมตร ของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บ้านกรวด
โดย พ.ต.อ.กำพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการ สภ.บ้านกรวด ก็ได้ร่วมสอบปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตัวเอง ซึ่งจากการสอบปากคำนายเดชา ก็ให้การว่า ได้ใช้มีดแทงนายทรงเดช จริง สาเหตุเนื่องจากมีเรื่องโกรธเคืองกัน กรณีที่ผู้ต้องหาเคยไปแอบดูภรรยาของผู้ตายอาบน้ำในห้องน้ำเมื่อประมาณปีที่แล้ว ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ จนถึงขั้นไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ก็ได้เรียกผู้ต้องหามาตักเตือน จากนั้นทั้งสองก็มีปากเสียงกันเรื่อยมา กระทั่งล่าสุดนายเดชา ก็มาก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดของที่ร้านสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายประเสริฐ พาพาน ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปซื้อของที่ร้านค้า ก็เห็นทรงเดช ผู้ตายไปขอแลกเงินที่ร้านเดียวกัน สักพักนายเดชา ผู้ก่อเหตุก็ขับรถ จยย.ตามไปแล้วเดินลงจากรถโดยที่ไม่ได้ดับเครื่อง จู่ๆ ก็วิ่งไปใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาด้วยพยายามไล่แทงนายทรงเดช โดยไม่พูดพล่ำทำเพลง ซึ่งนายทรงเดช ก็พยายามวิ่งหนีนายเดชา ก็ไล่ตามแทงหลายครั้ง จนนายทรงเดช ล้มฟุบขาดใจตายหน้าร้านค้า ซึ่งขณะเกิดเหตุก็มีชาวบ้านอยู่ที่ร้านค้าดังกล่าวเกือบ 10 คน ต่างก็ตกใจและร้องตะโกนให้นายเดชา หยุด แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะนายเดชา ถือมีดในมือและชาวบ้านก็รู้ว่านายเดชา มีอาการทางจิต ก็กลัวจะถูกทำร้ายด้วย พอนายเดชา ก่อเหตุเสร็จก็วิ่งหนีไป ชาวบ้านจึงโทรแจ้งกู้ภัย และตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้านนางรัศมี ลดจันทร์ อายุ 43 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า สามีเป็นคนดีไม่เคยมีปัญหากับใคร กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว นายเดชา ผู้ต้องหา ได้มาแอบส่องดูตอนตนอาบน้ำในห้องน้ำ และเวลาที่ตนไปไหนก็ตามคุกคามหลายครั้งเหมือนคนโรคจิต ตนจึงไปบอกสามีเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย สามีจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ จึงได้เรียกนายเดชา มาตักเตือนแต่นายเดชา กลับไม่พอใจและพยายามหาเรื่องสามีตนเองมาตลอด ซึ่งตนกับสามีก็พยายามหลีกเลี่ยงเพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีก่อเหตุฆ่าสามีตนเองอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ ส่วนตัวไม่ให้อภัยและไม่อยากให้มาขอขมาศพ เพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมตนต้องมาสูญเสียเสาหลักของบ้าน และต้องดูแลส่งเสียลูกอีก 2 คน อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นตำรวจก็ได้ควบคุมตัวไว้ และส่งฝากขังตามขั้นตอน ส่วนจะป่วยทางจิตหรือไม่อย่างไรนั้น ก็ต้องมีผลตรวจยืนยันจากแพทย์