วัดไผ่ล้อม จัดพิธีเผาศพสาวตายท้องกลม หลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีเพียงเพื่อนมาร่วมกันช่วยจัดพิธีเนื่องจากสามีและยายของผู้ตายยังนอนรักษาตัวอยู่ ซึ่งผู้ตายและสามีเป็นหัวเรือหลักทำงานเลี้ยง 9 ชีวิตในบ้าน โดยเกิดเรื่องอัศจรรย์ หลววงพี่น้ำฝน กดปุ่มปิดประตูเตาเผาไฟฟ้าแต่เครื่องไม่ยอมทำงานต้องบอกให้สงบจิตใจ ไม่ต้องห่วงคนข้างหลังแล้ว วันนี้ 21 พฤษภาคม 64 ที่ศาลาชีวะศิริ ฌาปนสถาน วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์จัดพิธีฌาปนกิจเร่งด่วนให้ นางสาวนิว (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ชาวอำเภอสามพราน ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 64 ที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยเมื่อรถตู้ซึ่งนำร่างโลงที่บรรจุร่างของ นางสาวนิว (นามสมมติ) มาถึงเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าเป็นกรณีที่เป็นสาวท้องแก่ ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับลูกที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งมีอายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน ซึ่งภายในงานมีเพียงเพื่อนของผู้เสียชีวิตซึ่งมาดำเนินการจัดส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย ราว 5-6 คนเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่ หลวงพี่น้ำฝน ได้มีการวางดอกไม้จันทน์ และเตรียมจะปิดเตาเผา ปรากฏว่าได้เกิดเรื่องประหลาดใจขึ้น เมื่อหลวงพี่น้ำฝนได้กดปุ่มเพื่อปิดเตาเผาตามปกติเหมือนเช่นทุกศพ ปรากฏว่า ปุ่มดังกล่าวกลับไม่ทำงานซึ่งมีการย้ำปุ่มไป 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ทำงาน กระทั่งหลวงพี่น้ำฝน ได้เปล่งว่า บอกว่าไม่ต้องห่วงแล้วและให้สงบจิตใจไปสู่ภพภูมิที่ดี ระบบไฟฟ้าจึงกลับมาทำงาน เหมือนเดิมและพิธีได้กลับมาดำเนินการตามประเพณีได้ตามปกติ สอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนที่นางนาวนิว (นามสมมติ) จะมาเสียชีวิต มีอาชีพขายไก่ ตามตลาดนัดซึ่งทำงานกับสามี ซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากในพื้นที่ที่ไปขายของหลายแห่ง ซึ่ง น.ส.นิว (นามสมมติ) นั้นมีบุตรสาว 1 คนอายุประมาณ 2 -3 ขวบ โดยมีน้องที่ตั้งครรภ์ อีก 7 เดือนในท้อง ซึ่งมีอาการป่วยมาหลายวันในช่วงตั้งท้อง กระทั่งปากเริ่มเปลี่ยนสี สามีจึงได้บอกให้มาตรวจและพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้มานอนพักรักษาตัว กระทั่งเมื่อ 4 วันก่อนมีอาการทรุดหนักก่อนจะมาเสียชีวิต เมื่อวานนี้ โดยมีน้ำหนักตัวถึง 120 กิโลกรัม โดยตอนนี้ สามีของผู้เสียชีวิตได้ไปตรวจเชื้อพบว่ามี การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นกัน ยายของผู้ตายที่อยู่บ้านเดียวกันก็ติดเชื้อด้วย ซึ่งบ้านพักในอำเภอสามพราน มีคนอาศัยอยู่ 9 คน ติดเชื้อ 5 คนและเสียชีวิต 1 คน โดยยายของผู้ตายที่ยังนอนรักษาตัว ยังไม่ทราบว่าหลานสาวเสียชีวิตพร้อมเหลนไปแล้ว ซึ่งทางญาติยังยังปกปิดเรื่องดังกล่าว เนื่องจากกลัวจะเกิดอาการช๊อค ในช่วงรักษาตัว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เผยว่า สำหรับกรณีนี้ทราบข่าวว่า ทางผู้ตายนับถือศาสนาคริสต์ ไม่สามารถทำพิธีฝังได้ตามปกติ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง จึงได้ประสานมาให้ทางวัดไผ่ล้อมดำเนินการให้ ซึ่งทางเราก็พร้อมที่จะรับ หากมีเอกสารครบถ้วน โดยไม่มีการแบ่งแยก หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้น่าหดหู่ใจ เพราะทราบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้อายุ น้อยที่สุดที่วัดไผ่ล้อมเคยจัดพิธีเผาให้ โดยเป็นการเผาผู้เสีชีวิต 2 รายในคราวเดียวกัน นับเป็นรายที่ 29 และ 30 ที่ฌาปนสถานแห่งนี้ ได้เผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 " กรณีนี้ทางเพื่อนของผู้ตายก็ขออนุเคราะห์จัดงานแบบสวดเผาฟรี ซึ่งทางวัดก็จัดให้และวัดไผ่ล้อมไม่มีนโยบายเรียกรับหรือเก็บเงิน โดยมีกองทุนสวดเผาฟรี อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังหนักหน่วง มีผู้เสียชีวิตทุกวัน ก็ขอให้ญาติโยมตั้งการ์ดให้สูง การสวมแมสคือสิ่งสำคัญ และวัคซีนที่ดีที่สุดคือตัวเรา ที่จะเป็นการป้องกันตัวเองและผู้อื่น อยู่กัน 2 คน ไม่ว่ากับใครก็ต้องสวมแมสเอาไว้ นี่คือการป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน" หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย