นายแพทย์เพชรฤกษ์ แทนสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารสุขจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยวานนี้ 20 พ.ค. 2564 ตรวจเชิงรุกไปกว่า 3,000 คน มีตัวเลขผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์โรงงาน 682 ราย ทั้งนี้ มีการปิดโรงงานแล้วทุกอาคารในส่วนของแรงงานต่างด้าว จำนวน 3,600 คนให้กักตัวอยู่ภายในโรงงาน พร้อมมีอาหารให้รับประทานครบ 3 มื้อ ส่วนแรงงานที่อยู่หอพักด้านนอก ก็จะกักตัวหรือ seal ให้อยู่แต่ในที่พัก โดยโรงงานดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอาหาร 3 มื้อเช่นกัน ด้าน นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้ออกคำสั่ง คำสั่งจังหวัดเพชรบุรี ที่ 790/2564 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ความว่า ... ตามที่จังหวัดเพชรบุรีได้มีคำสั่งที่ 784/2564ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ห้ามบุคคลเข้าไปหรือออกจากอาคารสถานที่เป็นการชั่วคราวและจัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค ในสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ในพื้นที่บริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นั้น จังหวัดเพชรบุรีได้รับรายงานผลการสอบสวนโรคจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ว่ามีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่บริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต่อมาทางบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งความประสงค์หยุดกิจการสถานประกอบการโรงงาน ของบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จังหวัดเพชรบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอเขาย้อยและอำเภออื่น ๆ จึงอาศัยอำนาจตามความในตามมาตรา 22 มาตรา 34 (7) และมาตรา 35 (1) (3) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1) ประกอบข้อ 1ข้อ 10 ข้อ 11 และข้อ 13ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ข้อ 1 และข้อ 8 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15)ลงวันที่ 25ธันวาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 89/พ.ศ. 2564 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 จึงยกเลิกคำสั่งจังหวัดเพชรบุรี ที่ 784 /2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 และออกคำสั่งไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ห้ามบุคคลใดเข้าไปหรือออกจากบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ตั้งอยู่ที่ 138 หมู่ที่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค สำหรับแรงงานชาวไทยและแรงงานต่างด้าวของบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ขอให้ดำเนินการกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย หรือสถานที่ ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลา 14วัน ข้อ 2 เนื่องจากพื้นที่ตำบลสระพัง และตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย เป็นพื้นที่เสี่ยง ต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อป้องกันมีให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามแรงงานชาวไทยหรือแรงงานต่างด้าว ของบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่ ได้รับอนุญาตหรือผ่อนผันซึ่งต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ตำบลสระพัง และตำบลบางเค็ม เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปยังบุคคลอื่นอีก เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น ข้อ 3 ให้อำเภอเขาย้อย สถานีตำรวจภูธรเขาย้อย และเทศบาลตำบลเขาย้อย ดำเนินการ กำหนดและจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในพื้นที่ตำบลสระพัง และตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และรายงานให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีทราบมอบหมายให้อำเภอเขาย้อย สถานีตำรวจภูธรเขาย้อย และเทศบาลตำบลเขาย้อย ร่วมบูรณาการกับทหารในพื้นที่ จัดประกอบกำลังเป็นชุดปฏิบัติการประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ ให้นายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่นายอำเภอมอบหมายในพื้นที่ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำจุดตรวจ คัดกรองดังกล่าว และผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเขาย้อยหรือผู้ที่ผู้กำกับมอบหมาย เป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ประจำจุดตรวจคัดกรองดังกล่าว ข้อ 4ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคพิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรอง ตามข้อ 3 เพื่อป้องกันและควบคุมโรคตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ข้อ 5 ให้จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการ ดังนี้ (1) อาคารโรงงานที่ 11 (Factory 11) ของบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ 138 หมู่ที่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี (2) อาคารโรงงานที่ 12 (Factory 12) ของบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ 138 หมู่ที่ 4 ถนนเพชรเกษม ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ทั้งนี้ ห้ามมีการชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกันในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งห้ามบุคคลใดเข้าไปหรือออกจากสถานที่ดังกล่าว เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค ข้อ 6 กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีดังต่อไปนี้ (1) ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับอำเภอเขาย้อย และเทศบาลตำบลเขาย้อย ดำเนินการตรวจคัดกรองประชาชนในพื้นที่ตำบลสระพัง และตำบลบางเค็มทุกคน หากพบบุคคลใดมีอาการเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้ดำเนินการส่งตัวไปแยกกัก กักกันหรือคุมไว้สังเกตอาการ ณ สถานที่ที่จังหวัดกำหนด แล้วรายงานให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีทราบ (2) ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับอำเภอทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการตรวจคัดกรองบุคคลที่เกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวข้องกับบริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หากพบบุคคลใดมีอาการเข้าข่ายต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ให้ดำเนินการส่งตัวไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ณ สถานที่ที่จังหวัดกำหนด แล้วรายงานให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีทราบ ทั้งนี้ ให้ผู้ปกครองท้องที่และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเฝ้าระวังสังเกตการณ์ และประเมินสถานการณ์ หากพบการแพร่ระบาดในพื้นที่ใด ให้รีบรายงานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีทราบโดยทันที (3) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่มีผู้กักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย ดำเนินการช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารจัดเลี้ยง ข้อ 7ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตนเอง กันตนเอง จากการรับเชื้อ และอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปยังบุคคลอื่นอีก อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิด ผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือจะกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้ใช้สิทธิโต้แย้งได้ตามความมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 52แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามข้อกำหนดตาความในมาตรา แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 1 ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2564 สั่ง ณ วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2564