นายอรัญ ศรีว่องไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สินทรัพย์ประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการรีแบรนด์บริษัทใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนแปลงชื่อและโลโก้ใช้ชื่อใหม่ว่า บริษัทเดอะวัน ประกันภัย จำกัด(มหาชน) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.2564 สาเหตุของการทำรีแบรนด์ครั้งนี้จริงๆแล้วก็เพราะบริษัทต้องการปรับชื่อกิจการของบริษัทเราให้ดูเหมาะสมและสอดคล้องกับการเป็นบริษัทประกันภัยในยุคดิจิทัล ซึ่งมีความทันสมัย และมีชื่อเรียกง่าย รวมถึงเป็นสากลมากขึ้น อีกทั้งตั้งแต่มีการซื้อกิจการและเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากตระกูลชลวิจารณ์ มาเป็นตระกูลศรีอรทัยกุลเป็นเวลานานแล้ว บริษัทเราก็ยังไม่เคยเปลี่ยนชื่อกิจการหรือทำรีแบรนด์เลย โดยใช้”สินทรัพย์ประกันภัย”ชื่อเก่ามาตลอด จึงเห็นว่า เป็นเวลาอันควรและเหมาะสมแล้วที่จะทำการเปลี่ยนแปลง และทำให้เวลาบริษัทต้องดิวงานกับบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ(รีอินชัวเรอร์ต่างประเทศ) บริษัทรีฯตปท.ก็จะง่ายขึ้น ในกหารเรียกชื่อบริษัท เพราะว่า คำว่า”เดอะวัน”ภาษาอังกฤษ เมื่อแปลเป็นภาษาไทยก็มีความหมาย “1” ซึ่งชื่อฝรั่งและชื่อไทยเป็นตัวเดียวกันด้วย จึงเป็นเหตุผลให้ผู้ถือหุ้นและผู้บริหารเราเห็นควรว่าใช้ชื่อ “เดอะวัน”ประกันภัยน่าจะเหมาะสมที่สุด
“จริงๆแล้วทางคุณหนึ่งหรือ”สุริยน ศรีอรทัยกุล”ปัจจุบันนั่งเป็นกรรมการบริษัทมีความตั้งใจว่า จะจัดงานใหญ่เปิดตัวให้สื่อมวลชนและพันธมิตรคู่ค้าก่อนหน้านี้ บังเอิญมาเจอปัญหาการระบาดของโควิดระลอกใหม่เข้าเสียก่อน จึงจำเป็นต้องงดจัดงานเลี้ยงเปิดตัวไป โดยขั้นตอนต่างๆขณะนี้ได้ขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ออกมาเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงหัวจดหมาย หัวโลโก้ รวมไปถึงการออกหนังสือเวียนให้บริษัทคู่ค้าหรือพันธมิตรทางการค้าเราได้เรารับทราบในเร็วๆวันนี้”
นายอรัญ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนชื่อและโลโก้ของบริษัทใหม่ตามสาขาต่างๆทั่วประเทศไปแล้วทั้งหมด 17 สาขาด้วยกันได้แก่ สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก หาดใหญ่ ,นครศรีธรรมรราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ชลบุรี ศรีราชา ราชบุรี นครปฐม ขอนแก่น นครพนม อุบลราชธานี นครราชสีมา กาญจนบุรี และลพบุรี เป็นต้น พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงนามบัตรและภาพลักษณ์สาขาให้สอดคล้องกับความตั้งใจของการรีแบรนด์บริษัท
นายอรัญ ยังกล่าวว่า สำหรับเป้าหมายเบี้ยประกันที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้จำนวน 2,600 ล้านบาท คาดว่าคงจะไม่มีปัญหา เนื่องจากยอดขายเราขณะนี้ทำได้ตามเป้า แยกเป็นรถยนต์ 80% และ อีก 20% เป็นนอนมอเตอร์ ซึ่งที่จริงแล้วปีที่แล้วเราทำเป้าหมายเบี้ยรถยนต์ได้ 85% และนอนมอเตอร์ได้สัดส่วน 15% ถ้าไม่นับรวมพอรต์งานประกันโควิดที่เข้ามา ซึ่งหากนับรวมแล้วเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะอยู่ในสัดส่วน 70% และอีก 30%นอนมอเตอร์ด้วยซ้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่า พอรต์งานประกันนอนมอเตอร์ในอดีตที่ผ่านมามีสัดส่วนไม่ถึง 5% แต่พอเรามาขยายงานด้านนี้ด้วยการเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น โดยปรับลดยอดงานประกันรถยนต์จากเบี้ย 4,000-5,000 ล้านบาท ลดเหลือ 2,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งเราเบรกงานประกันรถยนต์ แต่ไม่ได้เบรกงานประกันนอนมอเตอร์ จึงทำให้อัตราการเติบโตของงานประกันนอนมอเตอร์เพิ่มขึ้นโดยปริยาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้วยความโชคดีที่เรามีพันธมิตรที่เป็นร้านเพชร์และเครือข่ายจิวเวลรี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์เราอยู่แล้ว จึงทำให้การขยายงานนอนมอเตอร์ขยายตัวมากขึ้น รวมไปถึงบรรคาโบรกเกอร์ 10 บริษัทลำดับต้นๆของเราก็แฮปปี้พร้อมจะลุยไปกับบริษัทเรา หรือแม้แต่บริษัททีคิวเอ็มอินชัวรันส์โบรกเกอร์ที่เป็นโบรกเกอร์รายใหญ่ก็ให้การสนับสนุนป้อนงานให้กับเรา จึงทำให้บริษัทแข็งแกร่งและเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยตัวเลข Car ratio หรือคาร์เรโชถึงณ วันที่ 31 ธ.ค.2563 อยู่ที่อัตรา 170 % จนถึงไตรมาส 1 หรือสิ้นสุดณ วันที่ 31 มี.ค.2564 หรือปีนี้มีคาร์เรโชอยู่ที่ 186 .14 % ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานคปภ.กำหนดไว้ปัจจุบัน120%