"บิ๊กป้อม" เร่งนำร่าง "แรงงานไทย"เหยื่อฉนวนกาซา "อิสราเอล" กลับปท. เยียวยาครอบครัวตามระเบียบ พร้อมชะลอผู้เดินทางทำงานพื้นที่เสี่ยง ยันคนว่างงานตอนนี้ถือเป็นส่วนน้อย ด้าน "ญาติหนุ่มแรงงานบุรีรัมย์"ภาวนาขอให้สงครามยุติ ไม่อยากให้แรงงานไทยต้องจบชีวิตเหมือนหลาน
ที่กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแรงงานชาวไทยบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุปะทะกันในฉนวนกาซา ประเทศอิสราเอล ว่า ทางกระทรวงแรง งานได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประเทศไทยให้ได้โดยเร็วที่สุด และจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งเราจะจ่ายตามระเบียบอยู่แล้วให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตในต่างประเทศ
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ส่วนกลุ่มแรงงานจะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศในพื้นที่เสี่ยงนั้น ก็ขอให้ชะลอไปก่อน เรายังไม่ให้ไป แต่ถ้าไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงก็สามารถไปได้ ส่วนคนไทยที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงขณะนี้เราได้ประสานให้เขาอพยพไปก่อน หากมีปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์และดีขึ้น
ด้าน ญาติของ นายสิขรินทร์ สงำรัมย์ หรือลิป อายุ 23 ปี หนึ่งในแรงงานไทย ต.หินโคน อ.ลำปลายมาศ จ. บุรีรัมย์ ที่ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบกันที่ประเทศอิสราเอล ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทางครอบครับ ต่างเฝ้ารอให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือนำศพกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด เพราะอย่างน้อยก็จะได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ดีกว่าการนำเถ้ากระดูกกลับมาทำบุญเท่านั้น
ขณะที่ นางลำพัน อุปคุณ ป้าของนายสิขรินทร์ กล่าวว่า เสียใจที่ต้องมาสูญเสียหลานชายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่หลานตั้งใจจะไปทำงานหาเงินเพื่อมาชำระหนี้สินและจุนเจือครอบครัว แต่ต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ทำให้ลูกชายของหลานอายุ 2 ปี และ 4 ปีต้องมากำพร้าพ่อและขาดเสาหลัก จึงอยากจะภาวนาขอให้สงครามยุติลง จะได้ไม่ต้องมีแรงงานที่ดิ้นรนไปทำงาน ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรต้องมาตกเป็นเหยื่อสูญเสียชีวิตเหมือนกับหลานชายของตนเองอีก
"อยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของหลานด้วย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายกินอยู่ ภาระหนี้สิน และอยากให้ส่งเสียลูกทั้ง 2 คนของหลานได้เรียนสูงๆ และมีงานทำสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะพ่อของหลานก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เหลือเพียงแม่ที่เลี้ยงลูก ทุกวันนี้นายสิขรินทร์หลานชายต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักแทนพ่อแต่ก็ต้องมาจบชีวิตกับเหตุภัยสงครามที่เกิดขึ้นความหวังของครอบครัวที่จะมีเงินใช้หนี้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็หมดลง เพราะลำพังรายได้จากการขายของของผู้เป็นแม่และภรรยา ในภาวะวิกฤตโควิดก็แทบไม่พอกินอยู่แล้ว"