เมื่อวันที่ 20 พ.ค. จากกรณีมีข่าวเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอาหารสิงคโปร์ (SFA) เข้าตรวจสอบร้านอาหารไทยร้านหนึ่งที่อาคาร โกลเดน ไมล์ ทาวเวอร์ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 หลังได้รับแจ้งเบาะแส ภายในร้านพบอาหารที่มีส่วนประกอบของเลือดหมู ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศสิงคโปร์ มีโทษปรับสูงถึง 1.18 ล้านบาท หรือจำคุกสูงสุด 2 ปี โดยเลือดหมูต้มสุกเป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยนั้น ผศ.น.สพ.ดร.สุเจตน์ ชื่นชม นายกสมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย ให้ข้อมูลว่า สำหรับอุตสาหกรรมเนื้อหมูของประเทศไทยมีการกำกับดูแลโดยกรมปศุสัตว์ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอน supply chain ประกอบด้วยส่วนหลักๆ คือ ฟาร์มหมู โรงเชือด ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้า ซึ่งมีการยกระดับมาตรฐานการผลิตเนื้อสุกรตลอดห่วงโซ่การผลิต ในกระบวนการชำแหละสุกรที่ได้มาตรฐาน เริ่มจากพนักงานตรวจโรคสัตว์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายทำการตรวจสุขภาพสุกรเพื่อคัดสุกรสุขภาพดีเข้าสู่กระบวนการฆ่า และทำให้สลบ แล้วจึงเอาเลือดออกโดยการดูดหรือรองด้วยเสตนเลสใส่ในภาชนะที่สะอาด เลือดสุกรจะถูกนำไปบรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท และนำไปต้มสุกที่อุณหภูมิ 90-95 องศาเซลเซียสเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที ขั้นตอนสุดท้ายนำเลือดไปลดอุณหภูมิและแช่เย็น เพื่อเตรียมจัดส่งไปยังสถานที่จำหน่าย ดังนั้น หากเลือดสุกรที่ผ่านกระบวนต้มดังที่กล่าวมา สามารถมั่นใจได้เลยว่าเชื้อแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ต่างๆ ถูกทำลายหมดอย่างแน่นอน เพราะเป็นกระบวนการที่ผ่านมาตรฐานการผลิตที่ดี มีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค หลังจากนั้นพนักงานตรวจโรคสัตว์จะทำการตรวจซากอีกครั้ง สิ่งสำคัญกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมหมูของไทยนั้น มีมาตรฐานต่างๆ ตามที่กรมปศุสัตว์กำหนดควบคุมอยู่ ตั้งแต่การเลี้ยงสุกรที่ต้องได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (Good Agricultural Practices : GAP) ส่วนโรงฆ่าสัตว์ต้องได้รับการรับรองการปฏิบัติที่ดีสำหรับโรงฆ่าสัตว์ (Good Manufacturing Practice : GMP) จนถึงโรงงานแปรรูปก็ต้องปฏิบัติตามหลักสุขลักษณะที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Hygienic Practice : GHP) และการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Hazard Analysis and Critical Control Point : HACCP) ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรที่ผลิตภายใต้มาตรฐานดังกล่าวนี้ มีความสะอาด ปลอดภัย ปลอดสาร สอดคล้องกับ น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่ยืนยันว่า การผลิตอาหารของประเทศไทยมีมาตรฐานอาหารปลอดภัยในระดับสูง โดยเฉพาะการผลิตสุกรและผลิตภัณฑ์สุกร และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ พบว่าผลิตภัณฑ์ที่ถูกลักลอบเข้าไปในประเทศสิงคโปร์ในกรณีข้างต้นนั้น เป็นผลิตภัณฑ์เลือดหมูต้มที่ได้มาตรฐานการผลิตและมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค ที่สำคัญประเทศไทยไม่มีการส่งออกเลือดหมูเข้าสิงคโปร์ เพราะทราบดีถึงข้อกฎหมายดังกล่าว จึงขอเตือนประชาชนที่ประกอบการหรือจะเดินทางไปประเทศใดก็ตาม ให้การศึกษากฎหมายอย่างละเอียด และไม่ละเมิดกฎหมายของประเทศนั้นๆ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำสำหรับผู้บริโภค หากซื้อเลือดสุกรมาประกอบอาหารควรนำมาปรุงสุกอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าอาหารจะปลอดเชื้อ ปลอดภัย เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในกระบวนการขนส่งจากแหล่งผลิตจนถึงสถานที่จำหน่ายได้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาการผลิตได้ โดยเลือกซื้อจากสถานที่จำหน่ายที่มีตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ที่กรมปศุสัตว์ตรวจรับรองคุณภาพและมาตรฐานสินค้า รวมถึงสถานที่จัดจำหน่ายเพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น