หลังพบการระบาดใน 3 จุดใหญ่ ทั้งที่เขตหลักสี่ 1 จุด และเขตวัฒนา 2 จุด โดยใช้มาตรการ Bubble and Seal ในการควบคุมโรค เหมือน จ.สมุทรสาคร
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ศาลาว่าการกทม. ร.ต.อ. พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และพญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย ร่วมแถลงข่าว Online สรุปการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านระบบ Cisco Webex
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้พบการแพร่ระบาดในพื้นที่แคมป์คนงานก่อสร้าง 3 จุดใหญ่ ได้แก่ เขตหลักสี่ 1 จุด และเขตวัฒนา 2 จุด โดยเขตหลักสี่ ได้นำแนวทางการควบคุมโรคจากจังหวัดสมุทรสาครมาใช้ คือมาตรการการควบคุมโรคลักษณะการกักตัวคนงานไม่ให้ออกจากที่ทำงาน/ที่พัก (Bubble and Seal) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของแคมป์คนงานก่อสร้างในการควบคุมพื้นที่เพื่อให้คนงานทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายออกไปสู่ภายนอก ควบคู่ไปกับการตรวจอย่างรวดเร็ว (rapid test )หลังจากนี้ 14 วัน และหากพบผู้ป่วยที่มีอาการจะนำออกมาส่งต่อไปยังสถานพยาบาลเพื่อทำการรักษา ทั้งนี้พบว่าภาพรวมคนงานก่อสร้างในแคมป์คนงานทั้งหมดเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งกทม.จะเข้าไปให้ความรู้แก่เจ้าของและผู้ดูแลแคมป์คนงานเพื่อให้มีความเข้าใจในการปฏิบัติตนตามสุขลักษณะที่ดี รวมทั้งดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่ชุมชนโดยรอบแคมป์คนงาน ซึ่งมี 6 ชุมชน คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะครบทุกชุมชน สำหรับแคมป์คนงานที่เขตวัฒนาทั้ง 2 จุด ได้ส่งผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาทั้งหมดแล้ว และผู้ที่ไม่ติดเชื้อได้จัดให้มีพื้นที่แยกกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อไป
พญ.ป่านฤดี กล่าวว่า ในส่วนการระบาดของชุมชนคลองเตยได้ดำเนินการคัดกรองเชิงรุกไปแล้ว 39 ชุมชนเสี่ยง จำนวน 34,130 คน พบผู้ติดเชื้อ 1,555 คน โดยพบว่า 3 ชุมชนมีการติดเชื้อสูงและมีความเชื่อมโยงกับตลาด ซึ่งในพื้นที่ชุมชนได้นำหลักการ ล็อกชุมชน(กักตัวทั้งชุมชน) ไม่ให้ออกมาภายนอก (Community Isolation) ซึ่งชาวชุมชนควบคุมดูแลผู้ป่วยในบ้าน/ชุมชนเอง กทม.จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำและร่วมดูแล พบว่าประสบผลสำเร็จ จากนี้กทม.จะนำหลักการเดียวกันมาใช้ในการดูแลผู้ติดเชื้อในตลาด ร่วมกับการใช้มาตรการ Bubble and Seal เช่นเดียวกับแคมป์คนงาน โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เพื่อดูแลให้มีการเข้าออกพื้นที่ให้น้อยที่สุด ไม่ได้มีการปิดพื้นที่แต่อย่างใด นอกจากนี้กทม. มูลนิธิ องค์กรจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหารสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ จากนั้นจะมีการฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มนี้เพื่อป้องกันและควบคุมโรคต่อไป