เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ห้องประชุม ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมตรวจติดตามมาตรการขับเคลื่อนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ เป็นโอกาสดีที่ได้มาตรวจเยี่ยมกระทรวงแรงงานอีกครั้ง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ทั้งแรงงาน และบุคลากรกระทรวงแรงงาน ปลอดภัย ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมกันทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ สิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากคือ การเร่งกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้วัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำการทำงานเพิ่มเติม ในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1) การบริหารวัคซีน ให้บูรณาการร่วมกับคณะกรรมการกระจายวัคซีนแก่ผู้ประกันตน มาตรา 33 ให้ครอบคลุมและทั่วถึง และพัฒนาระบบยืนยันการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ 2) การตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก ขอให้ขยายให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยงสูงให้มากที่สุด รวมทั้งกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันแรงงานทุกกลุ่มให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 3) มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโรคโควิด-19 ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนและแรงงาน สามารถดำรงชีพได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น โครงการ ม33 เรารักกัน เป็นต้น 4) การแก้กฎหมายประกันสังคม ขอให้เร่งขับเคลื่อนเพื่อไปตามข้อเรียกร้องในการนำเงินชราภาพออกมาใช้บางส่วน ให้เป็นไปตามกำหนดระยะเวลา 5) แรงงานต่างด้าว ให้กำกับและดูแลการทำงานของแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยึดถือมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคโควิด “การประชุมในวันนี้ยังได้ Video Conference ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศด้วย ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และขอให้ตรวจสอบช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวข้ามสถานการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกัน”