วันที่ 19 พ.ค.64 ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมร่วมกับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในเขตสุขภาพที่ 4 เพื่อมอบนโยบายการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 นายอนุทินกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดใช้กลไกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ซึ่งตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป จะมีการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวนมาก ขอให้สำรวจความต้องการของประชาชน เสนอจำนวนวัคซีนและแผนการกระจายวัคซีน โดยเน้นย้ำให้เร่งฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้ตามตามเป้าหมายคือร้อยละ 70 ของประชากร ภายในเดือนกันยายน 2564 และไม่ต้องสำรองสำหรับเข็ม 2 เนื่องจากจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาเรื่อยๆ โดยจะฉีดให้ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมให้ครบตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 นอกจากนี้ วัคซีน 1 ขวด ซึ่งปกติระบุว่ามี 10 โดส แต่ปริมาณวัคซีนให้มามากกว่า 10 โดส จึงขอให้ฉีดให้ได้ 12 โดส จะช่วยประหยัดงบประมาณและฉีดวัคซีนได้มากขึ้น “แม้จะมีการนัดคิวฉีดวัคซีน แต่ถึงเวลาจริงอาจมีผู้ที่ไม่ได้มาตามนัด ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ เนื่องจากนำวัคซีนออกมาแล้วไม่สามารถนำกลับไปแช่หรือกลับไปสต๊อกได้ ต้องใช้ให้หมด จึงต้องเตรียมผู้เข้ามารับวัคซีนในส่วนนี้ด้วย” นายอนุทินกล่าว นายอนุทินกล่าวอีกว่า ขอให้เร่งฉีดวัคซีนในกลุ่ม อสม.ที่เป็นบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าให้ครบทั้งหมดโดยเร็ว เนื่องจากต้องเข้าไปดูแลประชาชนในครัวเรือน ถือว่ามีความเสี่ยง ส่วนหน่วยงาน องค์กรที่รวมกันมาฉีดเป็นกลุ่มจำนวนมาก หากสามารถจัดสถานที่และบุคลากรในการฉีดวัคซีนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานของกระทรวงสาธารณสุขจะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ