นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Pat Hemasuk ระบุว่า...บางครั้งการตัดสินใจที่ทางรัฐบาลและคณะแพทย์ของไทยนั้นโดนด่าจากคนไทยบางกลุ่ม ซึ่งกลุ่มแพทย์ที่ดูแลนโยบายจัดหาวัคซีนก็ต้องก้มหน้ารับคำด่าไปเงียบ ๆ แต่ถึงวันนี้แล้วการตัดสินใจในการจัดหาวัคซีนที่ไม่ต้องพึ่งพาวัคซีนของโครงการ COVAX ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จัดหาวัคซีนราคาถูกให้กับประเทศที่ไม่ใช่เศรษฐีมีเงินไม่อั้นได้วัคซีนไปใช้ในประเทศของตัวเอง ไทยเราตัดสินใจไม่ได้เข้าโครงการนี้ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราฝากความหวังเอาไว้กับโครงการ COVAX ที่ต้องพึ่งพาวัคซีน Astrazeneca แหล่งใหญ่จากประเทศอินเดีย ข่าวสด ๆ จากอินเดียออกมาเมื่อเย็นที่ผ่านมาแล้วว่า สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (The Serum Institute of India) ที่ผลิตวัคซีนจำนวนมากเพื่อให้กับโครงการนี้ขอยกเลิกการส่งวัคซีน ทำให้จำนวนวัคซีนในเดือนหน้าตามสัญญาจำนวน 190 ล้านโดสต้องหายไปจากโครงการ เรื่องนี้เรื่องใหญ่เลยนะครับ เพราะอินเดียคือผู้ผลิตรายใหญ่หนึ่งในสามของโลก ที่ผลิตส่งมาแล้วถึง 200 ล้านโดสต้องหยุดส่งออกจากวิกฤติภายในประเทศตัวเอง ทุกวันนี้อินเดียยังมีคนติดเชื้อโควิด - 19 วันละเป็นแสนหลายแสน ตายจำนวนมากทุกวันจนต้องเผาศพกันตามลานจอดรถแล้ว ดังนั้นวัคซีนของอินเดียจึงต้องใช้แต่ในประเทศของตัวเองจนกว่าสถานการณ์ในประเทศตัวเองจะเข้าสู่ปกติ The Serum Institute of India (SII) on Tuesday said it had never exported vaccines at the cost of the people of India and that it was committed to doing everything possible to support the vaccination drive in the country. “We have been working with the government tirelessly to do our best for humanity and will continue in the same spirit. This is the time for all of us to unite and work together to defeat the pandemic,” read the SII statement. ไทยเราตัดสินใจไม่เข้าโครงการนี้ แต่เราจะผลิตด้วยตัวเองจากวัคซีน Astrazeneca ของอังกฤษ ที่ไม่คิดกำไรในการกระจายวัคซีน และพึ่งพาวัคซีน Sinovac จากจีนที่เป็นราคามิตรภาพ และแถมฟรีในบางส่วน ดังนั้นถ้าเราได้วัคซีนที่ในราคาไม่แพง และผลิตได้เองจนสามารถแจกจ่ายได้ทั้งประเทศก่อนสิ้นปี นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วของคณะแพทย์และรัฐบาล แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมากลับโดนด่าว่าไม่เปิดทางเลือกให้วัคซีนตัวอื่นเข้ามาด้วย ประเทศไทยไม่ยากจนแต่ก็ไม่ใช้เศรษฐีที่จะเอาเงินไปหว่านมัดจำวัคซีนไปทั่ว ของฟรีไม่มีในโลกนี้ วัคซีนต้องมีมัดจำแม้แต่ในโครงการวัคซีนราคาถูกสำหรับประเทศยากจน โครงการ COVAX ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งขึ้นมาก็ตาม เมื่อวานนี้ นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกก็ออกมาพูดถึงผลกระทบจากที่อินเดียประกาศที่จะไม่ส่งออกวัคซีนจนกว่าคนติดเชื้อในประเทศจะอยู่ในระดับปกติเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าอีกกี่เดือนก็ไม่รู้ที่จะฉีดจนประเทศอินเดียมีภูมิคุ้มกันหมูจากจำนวนประชากร 1.3 พันล้านคนหรือประมาณ 17.5% ของประชากรโลก นั่นคือจำนวนวัคซีนที่ต้องใช้มหาศาลเพื่อที่จะหยุดการระบาดของเชื้ออินเดียที่ทั้งดุและโหดจนคนตายกระหน่ำไปทั้งเดือนก่อนจนถึงวันนี้ก็ยังไม่หยุด นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของคณะแพทย์และรัฐบาลที่ไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX คำด่าที่โดนมาเป็นเดือนวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าไทยเราตัดสินใจถูกต้อง แต่คนด่าจะออกมาขอโทษเหล่าแพทย์ที่ตัดสินใจถูกต้องไหม เรื่องนี้เดาได้เลยว่ารัฐบาลและคณะแพทย์ถูกด่าฟรี แล้วคนที่ด่าก็ทำเนียนไปหาเรื่องอื่นด่าใหม่อีกเรื่อง โชว์โง่รายวันต่อไปแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถ้าสนใตติดตามข่าวต่างประเทศแล้วจะรู้ว่า "ผมฟังหมอไม่ฟังหมา" เอาเพียงอ่านข่าวจากสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และ ผอ.องค์การอนามัยโลกในวันนี้ ก็รู้แล้วว่าทีมคนไทยตัดสินใจถูกต้องแล้วในนโยบายจัดหาวัคซีนของชาติ