"สิระ" ซัด "ภราดร" พฤติกรรมไม่ต่างจากเด็กอมมือ จี้ "เสี่ยหนู-เฮียตือ" สั่งสอนมารยาท ปลดจากโฆษก เปรยไม่อยากเชื่อคิดได้เท่านี้ ให้คนมาเสียเวลา-ค่ารถ รอฉีดวัคซีน แต่สุดท้ายบอกคิวเต็ม ถามกลับถ้าเกิดคลัสเตอร์วอล์คอิน จะขอให้พ่อออกมาช่วยหรือไม่
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ว่าเป็นคนดื้อรั้น ถูลู่ถูกัง ทิฐิมานะสูง และย้ำว่าวิธีจัดลำดับการ walk-in ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากแม้แต่น้อย ก็แค่กำหนดให้ชัดเจนว่ารับคิวไหน จำนวนเท่าไร คนเขามาคิวเต็มแล้ว เขาก็กลับบ้าน มาวันอื่นเท่านั้น ตนขอฝากไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ให้ดูแลกริยา มารยาทของนายภราดรด้วย ว่าได้รับการอบรมแบบถูกต้องมาหรือไม่ นายภราดรมีตำแหน่งเป็นถึงโฆษกพรรคร่วมรัฐบาล แต่กับพูดกับผู้ใหญ่เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าไร้วุฒิภาวะ ต้องถามไปที่พรรคภูมิใจไทยว่า คิดดีแล้วหรือที่เลือกคนแบบนี้มาทำหน้าที่โฆษกพรรค
นายสิระ กล่าวต่อว่า ตอนนี้คนไทยทุกคนพยายามคิดสิ่งดี ๆ เพื่อช่วยกันนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติ หากนายภราดรมีข้อเสนอแนะ และวิธีการจัดการได้ดีกว่า ก็ควรเสนอมาในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายบริหาร แต่สิ่งที่นายภราดรพูดมา นอกจากแสดงให้เห็นว่าเป็นเด็กที่ไร้มารยาทแล้ว อาจจะไร้สมองด้วย นายภราดรคิดได้อย่างไรว่า “ให้คนไทยจำนวนมาก มายืนออกันเพื่อรับคิวไหน ถ้าคิวเต็มแล้ว เขาก็กลับบ้าน มาวันอื่นเท่านั้น”สิ่งที่นายภราดรคิด น่าจะเป็นเพราะเติบโตมาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ถึงไม่เคยรู้ว่า การเดินทางสำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ ไม่ใช่เรื่องสนุก นอกจากจะต้องเสียค่ารถ ค่าน้ำมัน เพื่อเดินทางมา และยังเสียเวลาทำมาหากิน แต่พอเขามาถึง กลับบอกให้มาใหม่พรุ่งนี้ ตนขอถามว่า เวลาประชาชนออกมาด่ารัฐบาล ด่าท่านายกฯ นายภราดรกับพรรคภูมิใจไทยเคยแอ่นอกรับบ้างหรือไม่
“ผมรู้ว่าการทำงานร่วมกันย่อมมีการกระทบกระทั่งกัน แต่ถ้านายภราดรทำงานแบบมืออาชีพ ควรนำเสนอคงามคิดของตัวเองผ่านนายอนุทิน และนำมาปรึกษากับท่านนายกฯไม่ใช่ออกมาใช้ถ้อยคำแบบปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ถ้าข้อเสนอของคุณดีจริง เป็นประโยชน์กับประชาชน ทำไมเขาจะไม่ทำตาม แต่แนวคิดแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กเลยขายของ นี่ชีวิตประชาชนในโลกความเป็นจริงนะคุณภราดร ไม่ใช่ในโลกโซเชียลแบบที่คุณถนัด ถ้าการมาร่วมตัวกันเพื่อรอฉีดวัคซีนแบบวอล์คอิน ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโควิด กล่ยเป็นคลัสเตอร์แห่งใหม่ นายภราดรจะขอให้พ่อตัวเองช่วยมารับผิดชอบให้หรือไม่”นายสิระ กล่าว