"กอ.รมน." เร่งสร้างการรับรู้ให้ปชช.รู้เท่าทัน "Fake News" ชี้ โทษหนัก คุก-ปรับ พร้อมเน้นย้ำเฝ้าระวังลักลอบเข้าเมืองผิดกม.ตั้งแต่ชายแดน-พื้นที่ตอนใน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.64 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. แถลงผลการประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ครั้งที่ 5/2564 โดยมี พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญ ว่า กอ.รมน. เพิ่มการประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมาย และผลกระทบที่มีการส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อให้ประชาชนใช้สื่อโซเชียลอย่างรู้เท่าทัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน. ได้มอบหมายให้ กอ.รมน. สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนต่อเหตุการณ์ที่มีผลกระทบเกี่ยวกับความมั่นคงโดยได้ใช้ช่องทางของ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด รวมทั้งมวลชนของ กอ.รมน. ร่วมประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับประชาชนกรณีรับทราบข้อมูลจากสื่อโซเชียลซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เกิดความสับสนในลักษณะข่าวปลอม (fake news) โดยไม่มีที่มาที่ไป และแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ รวมทั้งให้ความรู้เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ "การเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จอาจจะสร้างความแตกแยกและความเข้าใจผิดต่อสังคม ตลอดจนทำลายภาพลักษณ์ต่อประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำโดยเจตนา หรือไม่ก็ตามถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย สำหรับบุคคลใดที่มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข่าวปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และทำให้ประชาชนเกิด ความตื่นตระหนก จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (2) ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ส่งต่อข้อมูลหรือที่เรียกว่าแชร์โดยรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลนั้นเป็นเท็จก็จะมีความผิดไปด้วย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (5) อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า กอ.รมน. จึงขอความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้รับข้อมูลข่าวสารจากช่องทางหน่วยงานราชการหรือรัฐบาลเป็นหลัก เพื่อได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องไม่บิดเบือนและขอให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์หรือส่งต่อให้กับผู้อื่น จึงอยากเตือนผู้ที่มีเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่าได้ทำการเผยแพร่โดยเด็ดขาด สำหรับผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หากเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม (fake news) โดยไม่เจตนาก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนหากพบเห็นการกระทำอันผิดกฎหมายพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายอื่นๆ สามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วนความมั่นคง กอ.รมน. 1374 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่ามีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พล.ต.ธนาธิป กล่าวอีกว่า กอ.รมน.บูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐเฝ้าระวังติดตามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการป้องกันการนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยได้ร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่าน กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด สนับสนุนเสริมการปฏิบัติกองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก ตั้งแต่แนวพื้นที่ชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในรวมไปถึงการตรวจตราสถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ที่นำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงาน โดยเน้นย้ำให้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดำเนินคดีต่อกระบวนการนำพา ตลอดจนไปถึงขอความร่วมมือจากประชาชน เป็นหูเป็นตาหากพบเห็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการโดยทันที