กองทัพภาค ที่ 2 คุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการ ตลาดการค้า รีสอร์ท ห้องเช่าและผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้า สกรีนคนเข้าออกในพื้นที่ พร้อมออกมาตรการป้องกันโควิด 19 ร่วมกัน หวั่นเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ซ้ำแบบเรือนจำ เพราะตลาดชายแดนมีชาวกัมพูชา เข้ามาค้าขายจำนวนมาก วันนี้ (19 พ.ค.64) ที่หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พันเอก ภาคภูมิ นภากาศ รอง ผบ.ฉก.2 เป็นประธานการประชุม แนวทางประสานการปฏิบัติ ป้องกันการแพร่ระบาดใน สถานการณ์โควิด-19 และแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ร่วมกับตัวแทนจากฝ่าย ปกครอง อ.กาบเชิง ,สาธารณสุข อ.กาบเชิง ,สภ.กาบเชิง,ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง,ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศช่องจอม กำนันตำบลด่าน,อบต.ด่าน และผู้ประกอบการตลาดการค้าชายแดนช่องจอม,รีสอร์ทและห้องเช่า ที่อยู่ในพื้นที่เพื่อขอความร่วมมือและขอข้อมูลในการสกรีนชาวกัมพูชาที่เข้าออกทั้งในห้องเช่า รีสอร์ท และที่เดินมาค้าขายในตลาดการค้าชายแดนช่องจอม รวมทั้งมาตรการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบการตลาดการค้า ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด- 19 ร่วมกัน ทั้งนี้ หลังจากแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยงานทหารในพื้นที่ประสานความร่วมมือเพื่อขอข้อมูลแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่มาเช่าพักและค้าขายในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อให้สามารถไล่ติดตามไทม์ไลน์ของบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากเกิดการระบาดและติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ ต.ด่าน มีชาวกัมพูชาเข้ามาพักอาศัยและค้าขายเป็นจำนวนมาก โดย รอง ผบ.ฉก.2 ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการตลาดการค้า รีสอร์ทและห้องเช่า เตรียมรวบรวมข้อมูลเตรียมการไว้ ในวันที่ 25 พ.ค.64 นี้ ประกอบด้วย ข้อมูล 1.แรงงานที่เคลื่อนย้ายมาจากตอนในประเทศก่อนที่จะเข้ากระบวนการผลักดันกลับประเทศ ไปพักอยู่ที่ไหน 2.ยอดแรงงานในพื้นที่แต่ละตลาดมีทั้งหมดเท่าไหร่ ขึ้นทะเบียนแรงงานเท่าไหร่ 3.มาตรการควบคุมป้องกันของตลาดอย่างไร 4.แรงงานรับวัคซีนอย่างไร และ 5.การไม่ปฏิบัติตามกฏหมายจราจร ซึ่งทางรอง ผบ.ฉก.2 ได้มีสมมุติฐานที่อาจเกิดขึ้น ในพื้นที่ 1.ชาวกัมพูชาที่กลับประเทศ มาจากจังหวัดตอนใน ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง 2.ชาวกัมพูชาที่กลับจากพื้นที่ตอนใน มาพักที่รีสอร์ท 3.ชาวกัมพูชาที่กลับจากพื้นที่ตอนในมาพักกับญาติพี่น้องก่อนให้ ตม.ผลักดัน 4.ชาวกัมพูชาที่มาจากพื้นที่ตอนใน ติดโควิด แต่ยังไม่แสดงอาการ สามารถเป็นพาหะและนำมาติดในตลาดหรือ รีสอร์ท ทั้งนี้ในพื้นที่ ไม่พบว่า มีการลักลอบเดินทางข้ามแดนเข้ามาของชาวกัมพูชา เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเข้มงวด รวมทั้งความต้องการแรงงานต่างๆลดลงจากสถานการณ์โควิด 19 ในขณะนี้ อีกทั้งการเดินทางกลับประเทศของชาวกัมพูชาจากจังหวัดตอนในต่างๆก็ลดลงอีกด้วย โดยพบข้อมูลว่าตั้งแต่วันที่ 1-17 พ.ค.64 มียอดผลักดันแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศอย่างถูกฏหมาย จำนวน 1,271 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอกาบเชิง ได้ฝากประชาสัมพันธ์ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนอกพื้นที่ที่มาค้าขายอยู่ในพื้นที่ ต.ด่าน สามารถเข้ามาลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ได้โดยนำบัตรประชาชนเลข 13 หลัก มาลงทะเบียนไว้ที่สถานีอนามัย ต.ด่าน อ.กาบเชิง ซึ่งจะได้มีการจัดคิวฉีดวัคซีนให้หลังจากชาว ต.ด่านได้ฉีดวัคซีนจนหมดแล้ว หรือหากชาว ต.ด่านบางคนไม่ฉีด ก็อาจจะมีการจัดคิวให้ฉีดต่อไป ทั้งนี้สาธารณสุข อ.กาบเชิง จะสามารถฉีดวัคซีนให้ครบทั้งอำเภอ ภายในเดือนมิถุนายน 2564 โดยเริ่มฉีดในวันที่ 1 มิ.ย.64 นี้ วันละ 300 คน ด้าน เจ้าหน้าที่ ตม.กาบเชิง ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า ชาวกัมพูชาที่กลับมาจากพื้นที่จังหวัดตอนใน ก่อนจะถูกผลักดันกลับประเทศตามกฏหมาย ได้มีการรวมกลุ่มกันมากับรถตู้ และมาพักตามสถานที่ที่จัดไว้ ไม่ได้ไปพักที่ห้องเช่าหรือรีสอร์ท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแรงงาน จะเดินทางมาถึงช่วงเช้าและรอผลักดันกลับประเทศ ไม่มีนอนค้างคืนตามห้องเช่าหรือรีสอร์ทแต่อย่างใด ขณะที่ พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง ได้เสนอให้มีการขีดเส้นบริเวณโดยรอบตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ไม่ว่าจะเป็นหลังรีสอร์ทดีดีโฮม หลังวัดหลวงปู่เฮง และในหมู่บ้านด้วย เนื่องจากมีรีสอร์ทและห้องเช่าอยู่ในพื้นที่อีกหลายแห่ง เพื่อให้ครอบคลุม ในการสกรีนการเข้าออกของคน ส่วนนายพัฒนา ชื่นยง ผจก.ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ทางตลาดไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการรวบรวมข้อมูลและสกรีนคนเข้าออกและมีมาตรการป้องกันต่างๆมาโดยตลอด แต่ที่น่าเป็นห่วง คือเราไม่ทราบว่าบุคคลที่มาเที่ยวหรือผ่านเข้ามาที่ตลาด จะมีการติดเชื้อมาจากที่อื่นหรือไม่ คือสิ่งที่เราเป็นห่วงมากกว่าบุคคลหรือชาวกัมพูชาที่อยู่ในตลาด และ ในวันที่ 21 พ.ค.64 นี้หน่วยงานทหารในพื้นที่ จะได้มีการประชุมควบคุมโรค ของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเข้าออกประเทศด้วย หลังพบข้อมูล ณ.วันที่ 17 พ.ค.64 พบว่าประเทศกัมพูชามีผู้ติดเชื้อสะสม จำนวน 22,544 คน ผู้ติดเชื้อใหม่ 360 คน จ.อุดรมีชัย มีพื้นที่ติดกับ จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 3 ราย จ.พระวิหาร 3 ราย จ.เสียมราฐ 36 ราย และ จ.บันเตียเมียนเจย 616 ราย