“จุรินทร์” ลั่นพร้อมสู้ศึกซักฟอก ชี้ทำงานต้องมีข้อบกพร่องบ้าง เชื่อ “บิ๊กตู่” นำทีมรบ.ตอบได้ทุกประเด็น แทงกั๊กไม่ทิ้ง บอกยังไม่ได้คิดโดดออกเรือตอนไหน ด้าน “แรมโบ้” สุดทน! วอน“กลุ่มทนายนกเขา”อย่าดึงปม “โควิด” เล่นการเมือง หวังไล่นายกฯ ขณะที่ “ประยุทธ์”ประกาศแก้ทุจริตเป็น “วาระแห่งชาติ” ชวนคนไทย-ขรก. ร่วมยกระดับความโปร่งใสประเทศสู่มาตรฐานสากล เมื่อวันที่ 16 พ.ค.64นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เรื่องการบริหารจัดการระบบสาธารณสุขล้มเหลว ในการปล่อยให้มีการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ในฐานะผู้นำรัฐบาล คือนายกรัฐมนตรี และตนเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เชื่อว่านายกฯสามารถนำทีมรัฐบาล ตอบคำถามต่างๆ ของฝ่ายค้านได้ และถ้ามีประเด็นใดที่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแต่ละกระทรวง เท่าที่เราเคยปฏิบัติมา รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยตอบคำถามแทนนายกฯ เมื่อถามว่า แต่มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า แผลของรัฐบาลค่อนข้างเยอะ จะเป็นอุปสรรคทำให้ประชาชน ลดความเชื่อมั่นของรัฐบาลลงหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่คนทำงานก็จะต้องมีข้อบกพร่องบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครจะมาทำหน้าที่บริหารประเทศข้อบกพร่องถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ฉะนั้นไม่คิดว่าจะมีปัญหาเรื่องข้อบกพร่องใดๆ รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่ ซึ่งวันนั้นก็ถือเป็นโอกาสของรัฐบาลที่จะได้ชี้แจง ทำความเข้าใจไปยังฝ่ายค้าน เพื่อผ่านไปยังประชาชนด้วย “เป็นเรื่องปกติที่คนขึ้นมาทำหน้าที่บริหารประเทศ ย่อมมีทั้งคนที่พอใจ และไม่พอใจ รัฐบาลเองก็มีหน้าที่นายกฯก็มีหน้าที่ในการทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ที่สุด และทำให้ดีที่สุด รวมถึงทำในสิ่งที่สามารถอธิบายกับประชาชนได้” เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเริ่มมีข้อเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนท่าทีการร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ตอบไปแล้วและในสถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่พรรคเห็นว่าจะต้องดำเนินการคือต้องจับมือร่วมกับทุกฝ่ายในการพาประเทศฝ่าวิกฤติ เมื่อถามว่า หมายความว่าหลังจากนี้จะไปไหนก็ไปกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว. กลาโหม จะไม่ทิ้ง หรือกระโดดออกจากเรือใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด ด้าน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวถึงกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ในฐานะที่ปรึกษากลุ่ม , นายพิชิต ไชยมงคล อดีตแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และนายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ออกมาจี้นายกฯ ลาออก เปิดทางนายกฯคนนอก เนื่องจากล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 และการปฏิรูปการประเทศ ว่า นายกฯ และรัฐบาลยังทำงานได้ดี และขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้าทั้งการดูแลผู้ป่วยการตรวจหาเชิงรุกผู้ติดเชื้อ การรักษา หาโรงพยาบาลสนาม นำผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษาให้รวดเร็วที่สุด รวมไปถึงการบริหารจัดการวัคซีน ที่กำลังทยอยเข้ามาเป็นจำนวนมากและจะนำไปฉีดให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด ให้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศก็เห็นการทำงานของนายกฯ และรัฐบาลทำงานตั้งใจและแก้ปัญหาได้ แต่วิกฤตโควิด-19เกิดขึ้นทั่วโลกบางประเทศหนักมากกว่าประเทศเราหลายสิบเท่า และการปฏิรูปด้านต่างๆนั้น เราก็ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ จนมีกฎหมายหลายฉบับผ่านสภาฯไปแล้วมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา “ขอให้มองอย่างเปิดใจว่านายกฯ และรัฐบาลทำดีที่สุดตั้งใจทำสุดความสามารถและจังหวะวิกฤตโควิดอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง ขอให้เปิดใจสักนิด ใครมาเป็นนายกฯและรัฐบาลในภาวะเช่นนี้เจอศึกหนักกองทัพโควิดศัตรูตัวร้ายกาจ ก็ต้องเหนื่อยและทุ่มตัวสู้สุดชีวิตเช่นกัน ขอให้เห็นใจกันบ้าง” นายเสกสกล ยังยืนยันว่า ในช่วงสถานการณ์วิกฤตประเทศเช่นนี้นายกฯประยุทธ์ เหมาะสมที่สุดกับการทำงานแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน เพราะผ่านมาได้ทำมาโดยตลอด ทำงานอย่างหนัก ซึ่งการระบาดที่ผ่านมาหลายครั้งสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นที่ยอมรับ เช่นเดียวกันกับครั้งนี้แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่นายกฯ และรัฐบาลก็พยายามที่จะหามาตรการต่างๆออกมาเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ และการที่จะมาให้นายกฯเสียสละ ลาออก เปิดทางนายกฯคนนอกทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรคงจะเป็นไปไม่ได้และสถานการณ์ก็ยังไปไม่ถึงขั้นนั้นอย่างแน่นอน “ประเทศอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาโควิด ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันช่วยกันแก้ไขปัญหา จึงไม่ควร ที่จะออกมาพูดเรื่องนี้ อีกทั้งการแก้ไขปัญหาจะต้องไม่สะดุด และต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องของชีวิตความปลอด ภัยประชาชนสำคัญกว่าเรื่องอื่นใดที่จะต้องทำเร่งด่วนก่อนเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ตนเองขอให้ทาง กลุ่ม ปท.หันมาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับประเทศก่อนจะดีกว่าที่จะออกมาเรียกร้องในเรื่องการเมือง ชีวิตของพี่น้องประชาชนมีความสำ คัญมีค่าสูงสุดกว่าทุกเรื่องในเวลานี้” นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า จากผลการสำรวจความเห็นของประชาชนจากสำนักซูเปอร์โพล ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไป ขอให้ทางกลุ่มฟังความเห็นประชาชนส่วนใหญ่บ้าง ตนจึงขอวิงวอนให้ทุกคนหันมาร่วมมือร่วมใจกัน แก้ปัญหาเพื่อช่วยพี่น้องประชาชน มีชีวิตมีลมหายใจมีความปลอดภัยให้ได้ ส่วนการเมืองเก็บเอาไว้ในลิ้นชักก่อน ค่อยมาว่ากันหลังจากบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ประชาชนปลอดภัยแล้ว นี่คือสิ่งที่สวยงามที่สุด ที่คนไทยส่วนใหญ่อยากเห็นคนไทยสามัคคีกันจับมือกันช่วยเหลือกันในยามวิกฤตนี้ ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวปราศรัยเชิญชวนประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ(ITA)ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.25 64 โดยกล่าวถึงปัญหาการทุจริต ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาประเทศ รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ทั้งในแง่การรับรู้ของภาคประชาชน และภาคธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้มีการปฏิบัติอย่างจริงจัง เป็นรูปธรรมทุกปี องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ จะดำเนินการสำรวจสถานการณ์การทุจริตของทุกประเทศทั่วโลก โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยถูกจัดอันดับปัญหาการทุจริตผ่านดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอรัปชั่น เพอเซพชั่น อินเดกซ์ หรือค่าซีพีไอ(CPI)โดยมีค่าคะแนนอยู่ในอันดับที่ 104 จากประเทศที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมด 180 ประเทศทั่วโลก ในช่วงท้าย นายกฯ ยังเชิญชวนคนไทย ทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับความโปร่งใสของประเทศไทย ให้มีมาตรฐานในระดับสากล และเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาคุณภาพ และคุณธรรมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ โดยร่วมกันประเมินหน่วยงานภาครัฐ ที่เคยติดต่อหรือรับบริการได้ทางเว็บไซต์สำนักงานหรือทางแอปพลิเคชันไอทีเอเอส(ITAS) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64 โดยจะมีการประกาศผลการประเมินไอทีเอของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศให้ต่อไป