วันที่​ 15​ พ.ค.64​ ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ร.ต.อ.ณรงค์​ ขำสุนทร​ รองสารวัตรสอบสวน​ สภ.ท่าม่วง​ จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากตำรวจประจำจุดบริการประชาชน​ ต.ท่าล้อฯ​ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เบนซ์ชนรถบรรทุก​ 10​ ล้อ​ และเฉี่ยวชนรถ​ จยย.อีก​ 2​ คัน​ มีผู้เสียชีวิต​ 1​ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก​ 2​ คน เหตุเกิดบนถนนแสงชูโตฝั่งขาเข้าเมืองกาญจน์​ ฝั่งตรงข้ามหน้าโชว์รูมรถอีซูซุ​ หมู่​ 2​ ต.ท่าล้อ​ อ.ท่าม่วงฯ​ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ​ พร้อมประสานแพทย์เวร​ รพ.สมเด็จพระสังฆราช​ องค์ที่​ 19​ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ ที่เกิดเหตุการจราจรติดขัดไป​ 1​ ช่องทาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​จุดรอรัยเหตุ​ท่าล้อ​ และจุดรอรับเหตุบ้านใหม่​ ต้องยืนอำนวยอำนวยความสะดวกในด้านการจราจรเพราะเกรงว่่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นได้​ จุดเกิดเหตุเป็นช่องทางเลนขวาเป็นช่องทางยูเทิร์น พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์สีบอร์นทอง​ รุ่น​ E​ 250​ Cei หมายเลขทะเบียน​ ญน.-1067 กรุงเทพมหานครฯ​ จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าเฉี่ยวชนรถบรรทุก​ 10​ ล้อ​ ยี่ห้ออีซูซุ​ หมายเลขทะเบียน​ 83-0989 กาญจนบุรี​ ซึ่งอยู่ในสภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย​ และห่างออกไปประมาณ​ 200​ เมตรพบรถ​ จยย.​จำนวน​ 2​ คัน​ พังเสียหาย​ คันแรกเป็นรถ​ จยย.ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน​ หมายเลขทะเบียน​ กรง.-427 กาญจนบุรี​ คันที่​ 2​ เป็นรถ​ จยยฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ.สีขาวม่วง​ หมายเลขทะเบียน​ ขทล-422 กาญจนบุรี​ ส่วนบริเวณกลางถนนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง​ 1​ รายนอนในสภาพหน้าผากฉีกขาดเป็นบาดแผลฉกรรจ์​ กะโหลกศีรษะแตก​ ลำคอหักหมุนได้รอบ​ ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนทราบชื่อ​ผู้ตายชื่อ นส.ดลนภา​ บ่อทรัพย์​ อายุ​ 23​ ปี​ อยู่บ้านเลขที่​ 58/2​ หมู่​ 2​ ต.ท่าล้อ​ อ.ท่าม่วง​ จ.กาญจนบุรี​ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ก่อนหน้าที่หญิงสาวเคราะห์ร้ายที่เสียชีวิต​ ขณะเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสนอนจมกองเลือด​ หายใจรวยรินอยู่ในสภาพสัญญาณชีพอ่อนมาก​ เจ้าหน้าที่กู้ชีพของมูลนิธิฯ​ได้พยายามช่วยเหลืิอชีวิตเป็นการด่วน​ โดยการทำ​ CPR.เพื่อช่วยชีวิต​จนสุดความสามารถ​ แต่สุดท้าย​ หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายในเวลาต่อมา สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ยังส่งผลให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บอีก​ 2​ ราย รายแรกเป็นคนขับรถเบนซ์ ไม่ทราบชื่อ​ ทราบ​ แต่เพียงว่าเป็นลูกสาวของนักธุรกิจเจ้าของโรงแรมระดับ​ 5​ ดาว​ และโรงงานผลิตปุ๋ยขนาดใหญ่ตั้ง​ในพื้นที่​ ต.ท่าล้ออ.ท่าม่วง​​ เป็นอดีตนายกเทศบาลตำบลชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่​ จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุถูกนำตัวส่ง​ รพ.ธนกาญจน์​ ซึ่งเป็น​ รพ.เอกชนให้แพทย์ทำการรักษาอาการบาดเจ็บจนอาการปลอดภัย​ ส่วนรายที่​ 2​ ทราบชื่อนางมลฤดี​ ประชาฉาย​ อายุ​ 52 ปี​ มีอาชีพเป็นเจ้าของร้านซักอบรีด​ หลังเกิดเหตุได้ถูกนำตัวส่ง​ รพ.สมเด็จพระสังฆราช​ องค์ที่​ 19 เบื้องต้นจากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ​ และจากปากคำให้การของคนขับรถบรรทุก​ 10​ ล้อ​ รวมทั้งปากคำของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่​รถบรรทุก​ 10​ ล้อ​ ซึ่งบรรทุกข้าวเปลือกไปส่งโรงสี​ที่​ ต.ท่าล้อ​ อ.ท่าม่วง​ หลังส่งเสร็จคนขับรถได้ขับรถมาจอดชะลอเลี้ยวตรงช่องทางเลี้ยว​เพื่อขับรถกลับบ้าน โดยมีรถเบนซ์วิ่งตามมาในถนนสายดังกล่าว มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจบุรี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ​ มีรถ จยย.วิ่งย้อนศรข้ามฝั่งถนนเลี้ยวยูเทิร์นตัดหน้ารถยนต์เบนท์อย่างกระชั้นชิด​ จึงถูกรถเบน์ชน​อย่างจัง และทำให้รถ​ จยย.เสียหลักกระเด็นไปพุ่งเข้าชนกับรถ​ จยย.อีกคันที่วิ่งมาตามทางเพื่อมุ่งหน้าเข้าเมือง จนทั้งรถทั้งคนกระเด็นตกไปไกลกว่า​ 100​ เมตรทำให้หญิงสาวเคราะห์ร้ายกระเด็นตกจากรถศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต​ ด้านรถเบนซ์ได้เหยียบเบรกและหักหลบจึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนรถบรรทุก​ 10​ ล้อดังกล่าว​ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามสอบสวนปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง​ 2​ ราย​ รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด​ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป