วันที่ 14 พ.ค.64 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจพร้อมมอบหน้ากากอนามัยแก่ลูกจ้างที่เข้ารับการตรวจโควิด-19 เชิงรุกเพื่อผู้ประกันตนในสถานประกอบการจังหวัดปทุมธานี โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี นายสุชาติ เปรมสุริยา รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และผู้ใช้แรงงาน เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับให้กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของกลุ่มผู้ใช้แรงงานอย่างเข้มงวด
โดยเพิ่มจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกแก่แรงงานในสถานประกอบการในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด อาทิ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร และพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (Coronaviruses Disease 2019) (COVID-19) เชิงรุกในสถานประกอบการ ซึ่งในวันนี้ผมได้มีโอกาสมาตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจ พร้อมมอบหน้ากากอนามัยแก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่เข้ารับการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการในจังหวัดปทุมธานี โดยสำนักงานประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี ร่วมมือจากสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี โรงพยาบาลการุณเวชปทุมธานี โดยมีเป้าหมายตรวจคัดกรองพนักงาน ลูกจ้าง ภายในบริษัทฯ ทั้งหมด 3,205 คน ดำเนินการตรวจ 2 วัน คือวันศุกร์ที่ 14 พ.ค.64 จำนวน 1,603 คน และวันจันทร์ที่ 17 พ.ค.64 อีก 1602 คน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจ ลูกจ้าง ผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และจะทราบผลภายใน 24 - 48 ชั่วโมง ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อ ก็จะต้อง เข้าสู่กระบวนการควบคุมดูแลรักษาตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างทันท่วงที
นายสุชาติ กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในความปลอดภัย ด้านสุขภาพของลูกจ้าง ผู้ประกันตน และพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนและพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เพื่อร่วมฝ่าวิกฤติ เชื้อร้ายโควิด-19 ไปด้วยกัน ตนในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน พร้อมผู้บริหารทุกท่าน ขอเป็นกำลังใจ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ใช้แรงงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้การดำเนินชีวิตของลูกจ้าง ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้กลับมาปกติสุขโดยเร็วที่สุดต่อไป