ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 14 พ.ค.64 ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำภายในเขื่อนแม่กลอง หมู่ 1 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้มีโครงการกำจัดต้นวัชพืชและผักตบชวาที่ขึ้นปกคลุมปิดกั้นเส้นทางการไหลเวียนของมวลน้ำมหาศาลเพื่อให้การไหลเวียนของน้ำมีประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้ดียื่งขึ้น
ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต หรือ (ผอ.ต่าย)ผู้อำนวยการ สำนักชลประทานที่ 13 กาญจนบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วยนายฑรัท เอี่ยมสอาด นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรีและ ผอ.หน่วยงานฝ่ายต่างๆ ของสำนักชลประทานที่ 13 ที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง ร่วมกับ ผอ.ส่วนบริหารเครื่องจักรกลที่ 6 สำนักเครื่องจักรกล รวมทั้งนายวิบูลย์ เจริญพร นายกเทศมนตรี เทศบาลต.ม่วงชุม นางมุกดา ภาเวชวงศ์ รองนายก ทต.ม่วงชุมตลอดจนปลัดอำเภอ ข้าราชการฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ กำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน อ.ท่าม่วง ผู้นำจิตอาสา 904 ได้เข้าร่วมกันเปิดโครงการกำจัดต้นวัชพืชและต้นผักตบชวากันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำและภายในเขื่อนแม่กลอง
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผอ.สำนักชลประทานที่ 13 กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดทำโครงการนี้ว่า "เนื่องจากต้นวัชพืชและต้นผักตบชวาเป็นจำนวนมากขึ้นปกคลุมภายในอ่างเก็บน้ำ ทำให้ปิดกั้นเส้นทางการระบายน้ำ เพื่อเป็นการเปิดเส้นทางการไหลของน้ำให้มีประสิทธิ์ภาพในการระบายน้ำมากยิ่งขึ้น จึงต้องเร่งกำจัดต้นวัชพืชและผักตบชวา เพื่อนำไปทิ้ง ที่ผ่านมาทางสำนักชลประทานที่ 13 ได้เร่งกำจัดต้นวัชพืช และผักตบชวาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงจัดทำโครงการฯ ดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล และตามคำสั่งของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งขาติ(กอนช) และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้มีคำสั่งให้สำนักชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศ เร่งจัดทำโครงการกำจัดต้นวัชพืชและผักตบชวาที่ปิดกั้นเส้นทางการไหลของน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ อีกทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำตามอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สามารถรองรับมวลน้ำได้อย่างเต็มที่
เนื่องจากเป็นช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ประจำปี 2564 ทางกรมชลประทาน จึงได้มีคำสั่งให้สำนักชลประทาน และโครงการชลประทานทุกแห่งทั่วประเทศเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยให้ใช้อุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องมือและแรงงานคนจัดรอบเวรผลัดเปลี่ยนทำการกำจัดต้นวัชพืชและผักตบชวาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีกทั้งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดผลกระทบต่อประชาชน"


