บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคารและผลิตภัณฑ์ปกป้องพื้นผิวแบบครบวงจรในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน หลังประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2564 มียอดขายและกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 8% และ 59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังดีมานด์การใช้สินค้าเติบโตทั้งในและต่างประเทศ นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มียอดขาย 4,422 ล้านบาท และมีรายได้รวมสูงถึง 4,456 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นกว่า 321 ล้านบาท และ 325 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยบริษัทฯ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้า TOA ที่ฟื้นตัวและเติบโตได้ดีทั้งในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจของ TOA ที่ครอบคลุมสินค้าและบริการแบบครบวงจร ตอกย้ำว่า TOA ไม่ได้มีแค่สีทาอาคาร แต่เรายังมีผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่นๆที่เราเชี่ยวชาญ ทั้งผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง แผ่นยิปซั่ม และผลิตภัณฑ์กระเบื้อง ที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันพอร์ตสินค้าของ TOA มีความหลากหลายและสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และระบบการให้บริการอย่างครบวงจร และเข้าถึงได้ง่าย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้ปรับตัวลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯ บันทึกกำไรสุทธิ 670 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 248 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.33 บาท/หุ้น สำหรับปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น และเราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาสินค้าและบริการอย่างครบวงจร เพื่อตอบโจทย์และทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะTOA คือ แบรนด์สีอันดับ 1 ของไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดต่อเนื่องอย่างยาวนาน บริษัทฯ มีเป้าหมายการเติบโต เพื่อก้าวขึ้นไปสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์ปกป้องพื้นผิว และวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน