ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล “เราเป็นแฟนเขา (ชุดนี้) เป็นงานที่รุ่นน้องทำเพื่อรุ่นพี่ที่เราเคารพ คารวะ ยกย่องนับถือกัน เราก็ดู...นักดนตรีไทยไม่ค่อยเคารพกัน ให้ความเคารพรุ่นพี่ เป็นรูปธรรม เป็นเรื่องเป็นราว เรานับถือคนนี้ก็แสดงออกเลยว่านับถือ ไม่ใช่ยกมือไหว้ไปงั้นๆ” ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ให้สัมภาษณ์นิตยสาร “สีสัน” ถึงอัลบั้มใหม่ “พระเจ้าหัวฟู” ไว้อย่างนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเป็นงานที่เขานำบทเพลงของ สุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน มาทำใหม่ เน้นกันที่งานส่วนตัวเป็นหลัก มีเพลง “คาราวาน”, “จิตร ภูมิศักดิ์” และ “เจ้าดวงดอกไม้” ที่เป็นงานกลุ่ม บวกรวมกับสองเพลงใหม่ หนึ่งคือเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มที่ ปู เขียน และอีกเพลงชื่อ “พิณ พนมไพร” ที่ หงา เขียนถึง มงคล อุทก อดีตเพื่อนร่วมวง คาราวาน ผู้ล่วงลับ แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ การมีแขกรับเชิญเป็นรุ่นพี่ในวงการเพื่อชีวิตอย่าง ยืนยง โอภากุล กับ ปรีชา ชนะภัย รวมทั้งรุ่นน้องอย่าง ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน มาร่วมงาน นอกเหนือไปจากตัว สุรชัย เอง-ที่ไม่แค่ส่งเพลงมาเพิ่มเติม แต่ยังร่วมร้องด้วย เปิดอัลบั้มด้วย “พระเจ้าหัวฟู” เพลงที่ ปู เขียนขึ้นเพื่อแสดงคารวะต่อรุ่นพี่ มาในอารมณ์เพลงโฟล์กแบบ คาราวาน แต่ดุดันกว่าด้วยการเติมร็อกลงไปในวิถีทางของรุ่นน้อง เนื้อเพลงสั้นๆบอกกล่าวความเป็นมาบนถนนดนตรีของ สุรชัย จันทิมาธร ได้ชัด (โปรดอย่านำไปพาดพิงถึงทัศนคติส่วนตัววันนี้-วันที่วัยผ่านเลข 7 ผ่านร้อนหนาวมามาก เห็นความเป็นไปของบ้านเมืองมาไม่น้อย) เริ่มต้นจากกำเนิด คาราวาน-เข้าป่า-ออกจากป่า และยังคงขีดเขียนเล่าเรื่องผ่านบทกวี, เรื่องสั้น และบทเพลง ต่อเนื่องมา แม้ระยะหลัง เรื่องเพลงจะห่างหายไปนานมากแล้วก็ตามที อย่างที่บอกไปในตอนต้น เพลงที่ ปู เลือกมาทำใหม่ในชุดนี้ ส่วนใหญ่เป็นงานในช่วงทำงานเดี่ยว บางเพลงคุ้นหู อย่าง “ช่างมันฉันไม่แคร์”, “ถนนมิตรภาพ” และ “ความรัก” แต่บางเพลงก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น “คนอะไรไม่รู้”, “คนนอกคอก”, “เจ้าควายน้อย” หรือ “บ่เปี้ยบ้านไพร” ซึ่งทั้งหมดปรากฏอยู่ในอัลบั้มเดี่ยวของ สุรชัย ระหว่างช่วงปี 2527-2540 เขานำมาจัดการแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ แม้แต่เพลงที่เขาเคยร้องมาแล้วหลายหนอย่าง “ถนนมิตรภาพ” ก็ยังให้ความรู้สึกสดใหม่ โครงหลักไม่เปลี่ยน แต่รายละเอียดดนตรีเพลงนี้สนุกทีเดียว จังหวะที่เร่งเร้าพุ่งทะยานไปข้างหน้า แฝงอารมณ์ประชดประชันเล็กๆ และอย่างที่บอกไปเช่นกันว่า ชุดนี้ได้พี่น้องในวงการมาร่วมร้องด้วย ช่วยให้ “พระเจ้าหัวฟู” มีสีสันแตกต่าง ยืนยง กับการตีความเพลง “จิตร ภูมิศักดิ์” ในแบบของตัวเองแต่ก็ไม่หลุดโทนจนกลายเป็นเพลงของ คาราบาว, ปรีชา กับเพลง “ช่างมันฉันไม่แคร์” อาจไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนคนไม่แคร์โลกเท่าต้นฉบับ แต่ก็พอเห็นภาพ “ยักไหล่” ไม่สนใจเรื่องรอบข้างได้เหมือนกัน, ลิเดีย ร้องคู่กับเขาใน “ความรัก” เพลงเพื่อหนุ่มสาวทุกสมัย มีความนุ่มนวลอ่อนหวานปลอบประโลม ส่วน สุรชัย มาทั้งร้องประสาน (“จิตร ภูมิศักดิ์”) ร้องคู่กับเจ้าของโปรเจกต์ใน “บ่เปี้ยบ้านไพร” ที่เสียงร้องของเขายังสูงใสกังวาน น่าทึ่ง เมื่อคิดว่าเขาอายุขึ้นเลข 7 แล้ว และร้องนำหมู่ร่วมกับ ยืนยง-ปรีชา-พงษ์สิทธิ์ ใน“พิณ พนมไพร” ที่แม้จะเลือกใช้เรกเก้-ซึ่ง มงคล ชอบ-เป็นสีดนตรีหลัก แต่ก็คุมโทนให้อยู่ในร่องรอยหลักของอัลบั้มชุดนี้ได้ดี พงษ์สิทธิ์ ทำงานชุดนี้ด้วยความเคารพต่อต้นฉบับ เมโลดี้ร้องเขาไม่แตะ แต่ร้องออกมาในสไตล์ตัวเอง แล้วเลือกไปปรับแต่งรายละเอียดดนตรีแทน ผสมทุกเสียงออกมาได้ใส สะอาด เนี้ยบ ปลอดโปร่งฟังสบาย สัมผัสได้ถึงความประณีตในการทำงาน จัดเรียงเพลงฟังลื่นไหล มีความเคลื่อนไหวไม่น่าเบื่อ และเป็นการแสดงความเคารพนับถือของรุ่นน้องที่มีต่อรุ่นพี่ได้งดงาม