วันที่ 13 พฤษภาคม นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 41 ราย ยืนยันสะสม 1,379 ราย เป็นไทย 1,225 ราย ต่างชาติ 154 ราย รักษาหาย 1,017 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 358 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นคนไทย 18 ราย แรงงานชาวพม่า 23 ราย มีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อในร้านอาหารยาโยอิ ภายในห้างหัวหินมาเก็จวิลเลจ และการติดเชื้อโควิดภายในโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน สำหรับโรงงานแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 166 ราย ก่อนหน้านี้นำไปรักษาที่ รพ.สนามใกล้ รพ หัวหิน ส่วนผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ให้พักดูอาการภายในโรงอาหาร ภายในโรงงาน ซึ่งปรับเป็น รพ.สนาม รองรับผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้มีความเสี่ยงสูง 402 ราย และมีคำสั่งจังหวัดให้กันตัวในโรงงานตั้งแต่วันที่ 7 – 20 พฤษภาคม 2564
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าทีมหัวหินก้างไกล อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดในระดับอำเภอหรือจังหวัดออกมาแสดงความรับผิชอบ กรณีมีผู้เสี่ยงสูงมากกว่า 100 คน จากโรงงานสับปะรดกระป๋องฯไปกักตัวในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหัวหิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด ทำให้มีผลกระทบเป็นอย่างมากกับประชาชนในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวที่รอความหวังให้ยุติการโรคระบาดด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
"เนื่องจากการกักตัวในโรงงานสับปะรดต้องมีเจ้าหน้าที่ อส.คุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง แต่การอ้างว่าไปกักตัวในโรงแรมทางราชการมีมาตรใดควบคุมบุคคลเหล่านั้นหรือไม่ หากออกมานอกโรงแรมโดยพลการ ขณะที่ประชาชนมองว่าปัญหานี้เป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งการปล่อยให้สถานบันเทิงผิดกฎหมายหลายแห่งเปิดบริการเกินเวลา ช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเมษายน 2564 ทำให้เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ระบาดทั้งจังหวัด ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาขอโทษประชาชน หรือทำให้คดีมีความคืบหน้า ล่าสุดยังการ์ดตกกับคลัสเตอร์โรงงานสับปะรดกระป๋องที่สามารถควบคุมโรคได้ง่าย แต่ยังปล่อยให้การป้องกันโรคมีปัญหา แต่ไม่มีหน่วยไหนกล้าแสดงความรับผิดชอบจากการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนไปกักตัวในโรงแรมโดยไม่เห็นหัวชาวบ้าน" พ.ต.อ.ฉัตรไชย กล่าว