แม้ว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งที่ 3 นี้ จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเปิดรับท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่กำหนดไว้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยมีปัจจัยหลักที่สำคัญ คือ การกระจายฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งล่าสุดแผนการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนมาแล้วแบบไม่กักตัว ของจังหวัดภูเก็ตยังคงเดิม โดยทางคณะกรรมการนโยบายการ ท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้กำหนดแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเปิดรับชาวต่างชาติไว้ 4 ระยะ ใน 10 พื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง
เปิดพื้นที่นำร่อง 10 เมืองท่องเที่ยว
ทั้งนี้ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการ ท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้เดินหน้าแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเปิดรับชาวต่างชาติ 4 ระยะ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 10 พื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง โดยเลือกจังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่บางส่วน พังงา สุราษฎร์ธานี จังหวัดเชียงใหม่บางส่วน ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี บุรีรัมย์ และกรุงเทพฯ
โดยแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเปิดรับชาวต่างชาติ 4 ระยะ แบ่งเป็น ระยะที่ 1 เริ่มเดือนเมษายน-วันที่ 30 มิถุนายน เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน มีใบ รับรองการฉีดวัคซีน และกักตัวตามระยะเวลาที่ ศบค. กำหนด ระยะที่ 2 ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ในวันที่ 1 กรกฎาคม -วันที่ 30 กันยายน เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตโดยไม่มีการกักตั;ระยะที่ 3 ผ่อนคลายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนและมีใบ รับรองการฉีดวัคซีน ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี บุรีรัมย์ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องกักตัว และ ระยะที่ 4 เข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วและมีใบรับรองการฉีดวัคซีนเข้ามายังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว
คนในพื้นที่นำร่องได้รับวัคซีนกว่า 70%
ซึ่งนางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่จะทำให้การดำเนินการ ตามแผนสำเร็จ คือ ประชาชนและ บุคลากรด้านการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ จะต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% โดยที่ประชุมเห็นชอบสนับสนุนฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นบุคลากร ด่านหน้าที่ต้องได้รับวัคซีนโดยเร็ว ในทุกจังหวัดเพื่อรองรับนโยบายเปิดประเทศ
จากข้อมูลในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาในประเทศไทย 39.9 ล้านคน ทั้ง 10 จังหวัดนำร่องมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด หากสามารถดำเนินการใน 10 จังหวัดดังกล่าวได้ตามแผน จะมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3,500,000 คน สร้างรายได้รวม 298,192 ล้านบาท
ฟื้นฟูเศรษฐกิจพร้อมคุมเข้มด้านสาธารณสุข
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวถึง จังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นจังหวัดนำร่อง ว่า ขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 2 แสนโดส ส่วนที่เหลืออีก 7.4-7.5 แสนโดสอยู่ระหว่างการขอจัดสรรเพิ่มเติม เพื่อให้ทันวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หากวัคซีนพร้อมทางจังหวัดภูเก็ตก็พร้อมระดมฉีดวัคซีนได้ถึงประมาณ 1.5 หมื่นโดสต่อวัน ซึ่งทันกับกำหนดการเปิดแน่นอน
โดยภูเก็ตแซนด์บอกซ์ยังเดินหน้าตามเป้าหมายเดิม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่ไปกับมาตรการด้านสาธารณสุขด้วย ซึ่งการจะเปิดจังหวัดภูเก็ตรับต่างชาติโดยไม่กักตัวนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลัก 2 เรื่อง คือ 1.คนในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 70% และจังหวัดภูเก็ตต้องมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ ดังนั้นระหว่างนี้รัฐบาลและสาธารณสุขต้องเร่งควบคุมให้ภูเก็ตไม่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่โดยเร็วที่สุด
ส่วนอีก 9 จังหวัดที่อยู่ในแผนเปิดวันที่ 1 ตุลาคมนั้น เงื่อนไขสำคัญคือ ต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ให้ครอบคลุม 70% ของจำนวนประชากร ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้นอาจไม่ต้องเป็นศูนย์แต่ก็ควรมีปริมาณต่ำกว่า 200 คนต่อวัน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่างชาติน่าจะรับรู้ได้ว่าประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเริ่มมีกระแสความต้องการการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นระยะ โดยเฉพาะในตลาดยุโรป อาทิ สหราชอาณาจักรเยอรมนี และกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการเดินทางในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
ขณะที่ นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า ทาง เทศบาลหัวหินเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว เหมือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 โดยดำเนินการผ่านโครงการหัวหินรีชาร์จ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้าง สรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ เป็นต้น