ไทยป่วยสะสม เฉียดแสน

โควิดไทยดับพุ่ง34 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 1,983 ราย "ศบค." ยึดคืนพื้นที่สีขาว 18 จังหวัด ไร้ผู้ติดเชื้อโควิด ขณะที่ 5 เขตกทม. "เขตวัฒนา" พบผู้ป่วยสะสมมากสุด รับคลัสเตอร์ตลาดพลอยจันทบุรีติดเชื้อแล้ว 139 ราย ยังไม่พบกลายพันธุ์ เร่งตรวจเชิงรุกพื้นที่เชื่อมโยง รับห่วงลักลอบเข้าประเทศผิดกม.หวั่นนำเข้าเชื้อกลายพันธุ์ ด้าน "จุฬาราชมนตรี" ออกประกาศขอความร่วมมือ 6 จังหวัดแดงเข้ม งดรวมกลุ่มละหมาดที่มัสยิด ขณะที่ "บิ๊กตู่"ตรวจเยี่ยมจุดกระจายวัคซีน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1,983 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,974 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 88,907 ราย มีผู้เสียชีวิตอีก 34 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 486 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 2,006 ราย รวมยอดรักษาหาย 59,043 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 29,378 ราย เป็นการรักษาในโรงพยาบาล 20,159 ราย โรงพยาบาลสนาม 9,219 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,226 ราย และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 401 ราย สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 34 ราย เป็นเพศชาย 16 ราย เพศหญิง 18 ราย อายุระหว่าง 33-93 ปี อยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการมากที่สุด 13 ราย กทม. 10 ราย นครปฐม ปทุมธานี จังหวัดละ 2 ราย สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบูรณ์ ชลบุรี นครนายก สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน มากสุด 18 ราย ไขมันในเลือดสูง 13 ราย ไตเรื้อรัง 7 ราย โรคหัวใจ โรคตับ จิตเวช โรคปอดเรื้อรัง ภาวะอ้วน ปฏิเสธโรคประจำตัว ติดเตียง โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัวมากสุดเช่นเดิม 12 ราย เพื่อน ไปสถานที่แออัด พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศขณะนี้ พบ 3 จังหวัดที่เป็นสีแดงมีผู้ป่วยมากกว่า 100 ราย คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ สีเนื้อมีผู้ป่วย 51-100 ราย คือ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี สีเหลืองมีผู้ป่วย 11-50 ราย 16 จังหวัด สีเขียวมีผู้ป่วย 1-10 ราย 38 จังหวัด เช่น นครปฐม ถือว่าดีขึ้นอย่างมาก จากเป็นสีแดง ตอนนี้ก็เป็นสีเขียวแล้ว โดยยึดคืนพื้นที่สีขาวได้ 18 จังหวัด ตัวเลขเป็น 0 ไม่พบผู้ติดเชื้อ ได้แก่ ลำปาง นครพนม สุรินทร์ น่าน สุโขทัย ยโสธร พะเยา สกลนคร เลย ชัยนาท แพร่ อุตรดิตถ์ หนองคาย สิงห์บุรี แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร บึงกาฬ และสตูล ขณะที่ 10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 12 พ.ค.64 คือ 1.กรุงเทพฯ 976 ราย 2.นนทบุรี 266 ราย 3.สมุทรปราการ 110 ราย 4.ชลบุรี 57 ราย 5.สุราษฎร์ธานี 53 ราย 6.พระนครศรีอยุธยา 38 ราย 7.สมุทรสาคร 36 ราย 8.จันทบุรี 32 ราย 9.ปทุมธานี 29 ราย 10.ปัตตานี 28 ราย ส่วนสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัด จากเส้นกราฟของต่างจังหวัดผู้ป่วยยังคงเดิมและอาจลดลง ไม่พุ่งขึ้น แต่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลกราฟยังมีพุ่งขึ้น การพบผู้ป่วยยังมีเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนผู้ป่วยยืนยันในกรุงเทพฯ พบ 5 เขตอันดับที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงสุด คือ เขตวัฒนา 461 ราย เขตดินแดง 458 ราย เขตห้วยขวาง 432 ราย เขตคลองเตย 420 ราย และเขตบางเขต 418 ราย พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กรณีการพบคลัสเตอร์ใหม่จากตลาดค้าพลอยที่จ.จันทบุรี และเชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกของกลุ่ม (Index case) เป็นผู้หญิงชาวกินีซึ่งมีอายุ 21 ปี ได้เข้าไปฝากครรภ์ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ใช้ชีวิตเป็นปกติ ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยเหตุผลฝากครรภ์ จากนั้นมีการตรวจโควิด-19 เพื่อเตรียมผ่าคลอด ซึ่งวันที่ 2 พ.ค. ผลตรวจเป็นบวก จากนั้นจึงสอบสวนบุคคลใกล้ชิด ได้แก่สามี อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นชาวกินีเช่นกัน วันที่ 4 พ.ค. ผลตรวจเป็นบวกเช่นกัน จากการสอบประวัติพบว่าสามีได้มีการอาชีพขายพลอยมีการเดินทางเข้ามาค้าขายภายในย่านบางรัก กรุงเทพฯ และได้เข้าร่วมประกอบกิจกรรมทางศาสนา คือมีการละหมาด 5 เวลา หมายความว่า มีการรวมกลุ่มพบกันในสถานที่สาธารณะที่มีคนรวมกลุ่มกันค่อนข้างหนาแน่น ซึ่งจาก 2 เคสแรกนี้ ทำให้มีการสอบสวนพบว่ามีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำที่ต้องระดมมาตรวจคัดกรองเชิงรุก ในระหว่างวันที่ 5 - 9 พ.ค. จำนวน 992 ราย พบติดเชื้อ 139 ราย คิดเป็น 13.81 เปอร์เซ็นต์ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ด้วยความที่ประชาชนเหล่านี้มีเชื้อชาติแอฟริกันมีทั้งชาวกินี และแอฟริกันสัญชาติอื่น ต้องเน้นย้ำว่าเขามีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้เป็นกลุ่มที่เดินทางไปมาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามได้มีการ ตรวจสายพันธุ์ของเชื้อโควิคด้วย แต่ยังไม่พบ สายพันธุ์กลายพันธุ์แอฟริกาใต้ เบื้องต้น ได้มีการประกาศปิดตลาดค้าพลอยจันทบุรีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 7-20 พ.ค.64 ส่วนตลาดค้าพลอยบางรัก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสำนักงานเขต กำ ลังเร่งตรวจเชิงรุก พร้อมประกาศให้กลุ่มเสี่ยงที่เคยไปสถานที่เหล่านี้ คือ ตลาดค้าพลอยจันทบุรี ตลาดค้าพลอยบางรัก และไปปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด ให้กักตัวสังเกตอาการตัวเอง และตรวจหาเชื้อ ซึ้งทางจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศขอความร่วมมืองดการรวมกลุ่มประกอบศาสนกิจการละหมาดที่มัสยิด ในพื้นควบคุมสูงสุดสีแดงเข้ม 6 จังหวัด ขอให้เป็นการละหมาดที่บ้าน เพื่อลดการรวมกลุ่มกัน ป้องกันการติดเชื้อจากการปฏิบัติศาสนกิจ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ายังมีการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายโดยช่องทางธรรมชาติจากประเทศกัมพูชา 2 ราย และลาว 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ลาดตระเวนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด พบแต่ละวันมีผู้ลักลอบกว่าร้อยรายต่อวัน โดยในที่ประชุมมีความเป็นห่วงในเรื่องการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายเนื่องจากอาจมีการนำเข้าเชื้อกลายพันธุ์ได้ วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางตรวจเยี่ยมจุดกระจายวัคซีน ที่เป็นความร่วมมือบริการระหว่าง กรุงเทพมหานคร - สภาหอการค้าไทย - โรงพยาบาลรามาธิบดี - ที่จุดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว