วันที่ 12 พ.ค.64 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล และผลกระทบต่อคนไทยในอิสราเอล ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า เหตุความไม่สงบที่ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน ๒๕๖๔ เริ่มจากเหตุการณ์ในนครเยรูซาเล็ม ต่อมาได้ขยายวงออกไปยังพื้นที่ตามเมืองต่าง ๆ ของอิสราเอล รวมทั้งเกิดเหตุโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซา และระหว่างวันที่ ๙-๑๐ พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุโจมตีด้วยจรวดและบอลลูนติดวัตถุระเบิดจากฉนวนกาซา และเหตุปะทะอย่างรุนแรงระหว่างชาวปาเลสไตน์และตำรวจอิสราเอลในนครเยรูซาเล็มอีกครั้ง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เหตุความตึงเครียดจะดำเนินต่อไปอีก เนื่องจากมีวันเทศกาลสำคัญทางศาสนาและการเมืองที่อาจเป็นชนวนเหตุความไม่สงบอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประกาศแนะนำให้คนไทยในอิสราเอลเพิ่มความระมัดระวัง ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ชุมนุม นอกจากนั้น ยังได้ประสานกับแรงงานไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งล่าสุดทราบว่า มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหนึ่งรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในส่วนของการจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อนำคนไทยกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดเที่ยวบินโดยมีคนไทยเดินทางกลับจำนวน ๒๒๒ คน ซึ่งผู้โดยสารทุกคนมีผลการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด-๑๙ ก่อนเดินทาง ๗๒ ชม. และจะเข้ารับการกักตัวตามหลักเกณฑ์ที่ทางการไทยกำหนด โดยนับตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-๑๙ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเที่ยวบินพิเศษรวม ๑๓ ครั้ง ส่งคนไทยกลับประเทศแล้วจำนวน ๒,๘๒๗ คน และจะดำเนินการจัดเที่ยวบินพิเศษอย่างต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ นายธานีฯ ยังได้กล่าวถึงเหตุคนร้ายบุกกราดยิงโรงเรียนในเมืองคาซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๙ คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงอีก ๒๑ คน โดยในเบื้องต้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก รายงานว่า ไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว