เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายแพทย์ ปรัศนี อารีรัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน เปิดเผยว่า​ จากกรณี ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.พะเยา ซึ่งเข้ารับการรักษาจนหายแล้ว แต่กลับมีภาวะแทรกซ้อนเพราะปอดได้รับความเสียหายจนสุดท้ายเสียชีวิตนั้น ผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้าทำการรักษาตัวเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่าน และวันที่ 13 เม.ย. ทำการเอกซเรย์บริเวณปอดจนพบเชื้อที่ชัดเจน ตนเองและทีมแพทย์ก็ได้ให้ยารักษาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 18 เม.ย.64 ซึ่งการรักษาดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ยาหลายตัวเพื่อให้เชื้อไวรัสโควิดนี้หายไปจากร่างกาย แต่กลับว่าปรากฏว่า ผู้ป่วยเกิดอาการทรุดลงจนต้องทำการส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยใช้เวลารักษาตัว 10 วัน ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการรักษาต่อจนปรากฏว่าเชื้อโควิดได้หายขาดไปจากผู้ป่วยแล้ว ทั้งนี้ทาง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จึงได้ส่งตัวผู้ป่วยรายนี้กลับมารักษาตัวต่อที่ รพ.เชียงคำ ในวันที่ 28 เม.ย. ภายในห้องความดันลบ แต่ด้วยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมากลับพบว่าอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น ด้วยมีภาวะเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนภายในปอด จนทำให้ปอดบวมและระบบหายใจล้มเหลว ก่อนจะเสียชีวิตต่อมาในเวลา 09.00 น. ด้านนายแพทย์ภราดรมงคลจาตุรงค์ผอ. รพ. คำทำนายว่าเวลานี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวซึ่งติดเชื้อโควิดในอ. เชียงคำและอ. ภูซางจ.พะเยาที่ได้ต่างกันจนเดินทางกลับบ้านได้แล้ว แต่ด้วยรายนี้ซึ่งมีโรคเร่ร่อนคือโรคความดันประกอบกับเชื้อโควิดได้การระบาดไปบางส่วนจนมีความเจ็บป่วยง่ายช่วยให้เดินทางเดินล้มเหลวในที่สุดทีมแพทย์ของรพ . เชียงคานอาจทำการรักษาอย่างที่สุดความสามารถด้วยเช่นกันความไม่สงบอยากจะฝากไว้ในเรื่องของเกมป้องกันโคตัวอยากให้พี่น้องได้มากันให้เยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ป้องกันโรคนี้ได้ส่วนผลข้างเคียง​ เทียบกับที่หลายคนชอบข่าวนั้นขอยืนยันว่าในพื้นที่ของอ. ตำนานและอ. ภูซางนั้นยังไม่ว่าผู้ที่จะไปแล้วเกิดการเสียชีวิตและเป็นอัมพาตกลัวตามที่หลาย ๆ กล่าวว่ามา ด้านนายเอ (นามสมมุติ) บุตรชายของผู้เสียชีวิตเผยว่าตนเข้าใจการทำงานของแพทย์เป็นอย่างดีไม่ทำความสะอาดเพราะทีมได้ช่วยเหลือแม่ของตนอย่างเต็มที่อยากให้ทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้ ว่าโรคโควิดนี้ทุกคนควรป้องกันอย่างเต็มที่เช่นกันเพื่อป้องกันการโจมตีที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ด้วยเช่นกันส่วนศพของพฤติกรรมนั้นจะทำงานฌาปนสันในเวลา 13.00 น. ของวันนี้โดยผู้เข้าร่วมจะมีเพียงน้องบ่าวไม่กี่รายได้.