เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ในระลอกนี้ขอให้ป้องกันตนเองให้เต็มที่ จากข้อพิสูจน์ทราบจะเห็นได้ว่าผู้ติดเชื้อจำนวนมากในระลอกนี้ เป็นการติดเชื้อในครอบครัว ในหมู่เพื่อนฝูง ที่ทำงาน สถานประกอบการต่างๆ ซึ่งเป็นการยากที่ภาครัฐจะลงไปควบคุมดูแลได้ทั้งหมด ดังนั้นหากเราร่วมมือกัน ราจะชนะศึกครั้งนี้ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน และเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาทุกคน ได้เหน็ดเหนื่อยกับภารกิจ อันใหญ่หลวงในครั้งนี้ “ผมอยากให้พวกเราทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชน มีส่วนร่วมในการช่วยชาติ ช่วยชุมชนของท่าน ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ และขอให้คำนึงถึงผลกระทบจากการแชร์ข่าวสารที่ไม่รู้ที่มา ยังสงสัย ไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องแน่นอน มันอาจสร้างความวุ่นวายสับสนให้แก่สังคม ยิ่งกว่านั้น ยังมีกลุ่มผู้ที่เจตนา หรือไม่เจตนา สร้างและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หรือเฟคนิวส์ ขอให้หยุดการกระทำเหล่านี้ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมเพิ่มความเดือดร้อน ความเสี่ยงให้กับตัวเอง คนรอบข้าง และประเทศชาติ โดยผมได้สั่งการและย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบ และจะดำเนินการทันที หากพบการกระทำผิดกฎหมาย ดังนั้น ผมจึงขอให้ทุกคนร่วมแรง ร่วมใจกัน เพื่อประเทศชาติและส่วนรวม พวกเราจะสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นายกฯ กล่าวว่า นอกจากการควบคุมสถานการณ์ ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าแล้ว สิ่งที่ตนและรัฐบาล พยายามคิดวางแผนทุกวัน ก็คือการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะการปิดสถานที่ต่างๆ ตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ติดตามดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมสถานการณ์ในแต่ละจังหวัดให้ได้ ปิดกั้นการลักลอบเข้าประเทศอย่างสูงสุด และประเมิน สถานการณ์วันต่อวัน หากจังหวัดใด โดยเฉพาะจังหวัดโซนสีแดง ที่มีการปิดสถานที่และข้อจากัดต่างๆ มีสถานการณ์ที่ควบคุมได้ดีขึ้นแล้ว ก็ให้มีการพิจารณาผ่อนคลายเงื่อนไขต่อไป เพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้กลับไปสู่การทำมาค้าขาย การเดินทางท่องเที่ยวได้เช่นเดิม ซึ่งผมจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เพื่อรักษาสมดุล ทั้งทางสุขภาพและเศรษฐกิจที่ต้องเดินควบคู่กันไปด้วย