วันที่ 11 พฤษภาคม จ่าเอกเสกสรร จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายหมู่บ้านบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย –พม่า อ.เมืองประจวบฯกรณีหวั่นวิตกการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จากแรงานเถื่อนที่ใช้เส้นทางธรรมชาติลักลอบเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งอาจเป็นเชื้อโควิดสายพันธ์ใหม่จากอืนเดีย ล่าสุดหลังจากมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตลอดแนวชายแดนที่ จ.กาญจนบุรี ทำให้แก๊งนายหน้าค้าแรงงานเถื่อนเปลี่ยนมาใช้พื้นที่ชายแดนไทย-พม่าที่ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีเส้นทางธรรมชาติหลายช่องทางและทราบว่ามีแรงงานเถื่อนมากกว่า 300 คน เดินทางมาพักรอที่บ้านมูด่อง ตรงข้ามจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร รอลอบเดินเท้าเข้าประเทศไทย
จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านบริเวณแนวชายแดนมีความหวั่นวิตก เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านชุมชน จับกุมแรงงานเถื่อนจำนวนมากลักลอบเข้าประเทศหลายครั้งแต่ไม่ได้นำไปดำเนินคดี มีเจ้าหน้าที่บางรายให้เหตุผลว่าเป็นปัญหาด้านความมั่นคง จากนั้นอ้างว่าได้นำขึ้นรถบรรทุกนำแรงงานเถื่อนไปปล่อยกลับประเทศต้นทางบริเวณช่องทางธรรมชาติ ซึ่งในทางปฏิบัติน่าจะผิดหลักการ เนื่องจากไม่มีการแสดงหลักฐานว่าแรงงานเถื่อนจะเดินเท้ากลับไปจริงหรือไม่ ขณะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์และบ้านมูด่อง อ.ตะนาวศรี จ.มะริด ถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงของไทยควรนำแรงงานเถื่อนไปพักรอทางการพม่าที่หน้าด้านทางเข้าประเศษพม่า เพื่อให้ทหารและฝ่ายปกครองพม่ามารับกลับไปทั้งหมด ไม่สร้างปัญหาให้ประเทศไทยในสถานการณ์โควิด 19
"การจับกุมหลายครั้งเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนคนนำพาข้ามแดน สารภาพว่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านมูด่อง รับจ้างนำทางพาชาวพม่าส่งฝั่งไทย ให้กับนายหน้าที่จะนำรถมารอรับไปส่งที่ จ.สมุทรสาคร และ กทม.ได้ค่าจ้างหัวละ 4,000 บาท สำหรับแรงงานพม่าบางส่วนเดินทางมาจากเมืองเมาะลำไย ต้องจ่ายค่าหัว 15,000 บาท เมื่อไปถึงปลายทางที่โรงงานใน จ.สมุทรสาคร เมื่อแรงงานทั้งหมดไปถึงจุดหมายตามใบสั่ง จากนั้นนายจ้างจะหักค่านำพาจากค่าแรงที่รับจ้างรายวัน" จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมแรงงานเถื่อนจะมีการทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ และตรวจหาเชื้อโควิด 19 เจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานผลักดันส่งกลับที่ช่องทางธรรมชาติ ใกล้ด่านสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง ฯเพื่อให้เดินเท้ากลับบ้านมูด่อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทางการพม่าปฏิเสธการรับตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดกลับประเทศผ่านช่องทางปกติ ขณะที่หลายหน่วยงานให้ข้อมูลอ้างว่าได้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากจับบุคคลต่างด้าวชาวพม่าภายในรัศมี 3 กิโลเมตรจากแนวชายแดน ให้ดำเนินการผลักดันส่งกลับไปยังประเทศต้นทางทันทีเพื่อป้องกันโควิด 19
มีรายงานว่า การกระทำดังกล่าวเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนด้านการค้าแรงงานข้ามชาติได้เก็บข้อมูลเพื่อใช้เป็นหลักฐานเอาผิดหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้องที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากปัจจุบันแรงงานเถื่อนจำนวนมากตามใบสั่งของนายทุน พักอาศัยบริเวณช่องทางธรรมชาติ มีนายทุนค้าแรงงานเถื่อนทั้งฝ่ายไทยและพม่าดูแลอย่างดี มีการต่อรองผลประโยชน์เพื่อลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง