ลุงเขยเหี้ยม ใช้ด้ามไม้กวาดและสายไฟตีหลานสาววัยเพียงขวบเศษจนหลังลายเป็นแนวทั่วทั้งตัว เหตุส่งเสียงร้องรบกวนดัง ทำผู้เป็นป้าสุดทนพยายามขอความช่วยเหลือ แต่คนข้างบ้านไม่มอง ก่อนใช้โทรศัพท์โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางสื่อโซเชียลนานนับเดือน ก่อนมีคนรู้จักนำเรื่องปรึกษาตำรวจยื่นมือเข้าช่วยสำเร็จ เบื้องต้น จนท.เตรียมส่งให้แพทย์ตรวจบาดแผล ก่อนทำการสอบปากดำเนินคดีลุงสายโหดรายนี้ต่อไป
วันที่ 10 พ.ค.64 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้นำกำลังพร้อมญาติบุกเข้าไปช่วยเหลือ ด.ญ.วัย 1 ขวบ 6 เดือน ยังที่ห้องพักเลขที่ 302 ซึ่งเป็นตึกแถวย่านตลาดบน ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับการประสานงานมาจาก ด.ต.ชุติเดช ชุมพล ณ อยุธยา ผบ.หมู่งานสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ว่าที่ห้องพักดังกล่าวมีเด็กถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้สายไฟเฆี่ยนตีจนมีร่องรอยบาดแผลเขียวช้ำเป็นแนวไปทั่วทั้งตัว
หลังทำการบุกเข้าไปให้การช่วยเหลือแล้ว ได้นำพาเด็กหญิงรายดังกล่าว เดินทางมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ อ่อนสีทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทราในทันที โดยมีญาติพร้อมด้วยมารดาของเด็กเดินทางเข้ามาร่วมให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย
จากการสอบถาม น.ส.อาซียะห์ เกตุสุริยงค์ อายุ 29 ปี ผู้เป็นป้าของเด็กหญิงรายดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือไปยังผู้คนที่รู้จักผ่านทางสื่อโซเชียล ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังจากทนเห็นหลานสาวซึ่งเป็นบุตรของ น.ส.แพรวพรรณ เกตุสุริยงค์ อายุ 26 ปี ที่ตนได้รับมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เกิดมาได้เพียง 14 วัน เนื่องจากผู้เป็นน้องสาวไม่มีเวลาดูแล เพราะต้องทำงานในห้างสรรพสินค้า
แต่หลานสาวได้ถูกนายภาวัต คงเจริญ อายุ 31 ปี ใช้สายไฟฟ้าและด้ามไม้กวาดเฆี่ยนตีอยู่เป็นประจำตั้งแต่ยังนอนแบเบาะ โดยอ้างว่าหลานสาวมักร้องส่งเสียงร้องดังรบกวนในเวลาที่เขาจะนอน หรือเวลาเกิดความไม่พอใจอะไรต่อคนในบ้าน ก็มักจะไปลงมือทำร้ายเฆี่ยนตีที่หลานสาวมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งแต่ก่อนนั้นยังไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ แต่มาในระยะหลังเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เขาเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้น
จนทำให้หลานสาว มีแต่รอยฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว ซึ่งตนได้เคยพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่กลับถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายไปด้วย จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรได้ เนื่องจากตนนั้นได้เข้ามาอยู่อาศัยกับครอบครัวของเขา ประกอบด้วยคนในบ้าน ที่มีทั้งพ่อและแม่ รวมถึงน้องสาวน้องเขยของเขาอยู่ด้วย อีกทั้งตนนั้นก็ยังมีบุตรสาวกับเขาด้วยรวม 2 คน ที่ต้องอาศัยให้เขาหาเลี้ยงด้วยการออกไปรับจ้างทำงานในโรงงาน
แต่เมื่อตนเริ่มเป็นเข้าใช้ความรุนแรงกับเด็กหนักขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาได้เคยพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่อาศัยข้างเคียงมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ จึงได้แอบใช้โทรศัพท์ของผู้เป็นสามีโพสต์ข้อความออกไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เคยรู้จัก ยังที่บ้านเกิดในเมืองพัทยา เนื่องจากตนเองไม่มีโทรศัพท์ในขณะที่เขานอนหลับ เนื่องจากสามีของตนนั้นมักจะมีอารมณ์โกรธหรือโมโหด้วยท่าทีดุร้ายเป็นประจำ
หลังจากโพสต์ข้อความออกไป จึงมีเพื่อนที่มีอาชีพเป็นครูรายหนึ่งได้นำเรื่องไปปรึกษากับทาง ด.ต.ชุติเดช ซึ่งเป็นคนรู้จัก ให้พามาประสานขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในวันนี้ น.ส.อาซียะห์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ได้ทำการส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายยังที่ รพ.พุทธโสธร เพื่อให้แพทย์ตรวจดูบาดแผลที่ถูกทำร้าย เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีและจะส่งเรื่องให้ทางพนักงานสอบสวนหญิง ผู้มีหน้าที่รับผิดขอบเกี่ยวกับคดีของเด็กเยาวชนและสตรี ประจำ สภ.เมืองฉะเชิงเทมรา ดำเนินการสอบสวนปากคำผู้เสียหายและญาติต่อไป พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ กล่าว
จากการสอบถาม น.ส.อาซียะห์ เกตุสุริยงค์ อายุ 29 ปี ผู้เป็นป้าของเด็กหญิงรายดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือไปยังผู้คนที่รู้จักผ่านทางสื่อโซเชียล ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังจากทนเห็นหลานสาวซึ่งเป็นบุตรของ น.ส.แพรวพรรณ เกตุสุริยงค์ อายุ 26 ปี ที่ตนได้รับมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เกิดมาได้เพียง 14 วัน เนื่องจากผู้เป็นน้องสาวไม่มีเวลาดูแล เพราะต้องทำงานในห้างสรรพสินค้า
แต่หลานสาวได้ถูกนายภาวัต คงเจริญ อายุ 31 ปี ใช้สายไฟฟ้าและด้ามไม้กวาดเฆี่ยนตีอยู่เป็นประจำตั้งแต่ยังนอนแบเบาะ โดยอ้างว่าหลานสาวมักร้องส่งเสียงร้องดังรบกวนในเวลาที่เขาจะนอน หรือเวลาเกิดความไม่พอใจอะไรต่อคนในบ้าน ก็มักจะไปลงมือทำร้ายเฆี่ยนตีที่หลานสาวมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งแต่ก่อนนั้นยังไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ แต่มาในระยะหลังเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา เขาเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้น
จนทำให้หลานสาว มีแต่รอยฟกช้ำไปทั่วทั้งตัว ซึ่งตนได้เคยพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่กลับถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายไปด้วย จึงไม่กล้าที่จะทำอะไรได้ เนื่องจากตนนั้นได้เข้ามาอยู่อาศัยกับครอบครัวของเขา ประกอบด้วยคนในบ้าน ที่มีทั้งพ่อและแม่ รวมถึงน้องสาวน้องเขยของเขาอยู่ด้วย อีกทั้งตนนั้นก็ยังมีบุตรสาวกับเขาด้วยรวม 2 คน ที่ต้องอาศัยให้เขาหาเลี้ยงด้วยการออกไปรับจ้างทำงานในโรงงาน
แต่เมื่อตนเริ่มเป็นเข้าใช้ความรุนแรงกับเด็กหนักขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมาได้เคยพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่อาศัยข้างเคียงมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ จึงได้แอบใช้โทรศัพท์ของผู้เป็นสามีโพสต์ข้อความออกไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เคยรู้จัก ยังที่บ้านเกิดในเมืองพัทยา เนื่องจากตนเองไม่มีโทรศัพท์ในขณะที่เขานอนหลับ เนื่องจากสามีของตนนั้นมักจะมีอารมณ์โกรธหรือโมโหด้วยท่าทีดุร้ายเป็นประจำ
หลังจากโพสต์ข้อความออกไป จึงมีเพื่อนที่มีอาชีพเป็นครูรายหนึ่งได้นำเรื่องไปปรึกษากับทาง ด.ต.ชุติเดช ซึ่งเป็นคนรู้จัก ให้พามาประสานขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในวันนี้ น.ส.อาซียะห์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ได้ทำการส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายยังที่ รพ.พุทธโสธร เพื่อให้แพทย์ตรวจดูบาดแผลที่ถูกทำร้าย เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีและจะส่งเรื่องให้ทางพนักงานสอบสวนหญิง ผู้มีหน้าที่รับผิดขอบเกี่ยวกับคดีของเด็กเยาวชนและสตรี ประจำ สภ.เมืองฉะเชิงเทมรา ดำเนินการสอบสวนปากคำผู้เสียหายและญาติต่อไป พ.ต.ท.เสถียรพงษ์ กล่าว