วันที่ 9 พ.ค.64 เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดในวันนี้ว่า สถานการณ์การระบาดของโรคระลอกใหม่จากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ที่เกิดการแพร่กระจายไปทั่วทั้งจังหวัดอย่างรุนแรงมาเกือบตลอด 1 เดือนเต็มที่ผ่านมนั้น ได้เริ่มคลี่คลายลดลงแล้ว หลังจากทางศูนย์ปฏิบัติการโควิด 19 จ.ฉะเชิงเทรา มีการรายงานยอดจำนวนของผู้ติดเชื้อแบบรายวันลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว โดยในวันนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 5 ราย จากเมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวน 6 ราย และวันก่อนหน้ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 25 ราย จึงทำให้ในขณะนี้ภาพรวมของผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีจำนวนรายวันลดลง โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 497 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากการระบาดระลอกแรกจำนวน 21 ราย จากการระบาดระลอก 2 จำนวน 28 ราย และระลอก 3 เมื่อต้นเดือน เม.ย.64 จำนวน 448 ราย มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 4 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อจากการระบาดครั้งล่าสุดได้รับการรักษาจนหายป่วยแล้วจำนวน 116 ราย ส่วนพื้นที่พบการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง และผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการนั้น ทางนายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอสนามชัยเขต ได้สั่งการให้ทำการปิดล็อกหมู่บ้าน ด้วยการตั้งด่านจุดตรวจคัดกรองประชาชน ให้เข้าออกหมู่บ้านได้เพียงเส้นทางเดียว พร้อมทั้งมีการควบคุมห้ามประชาชนเดินทางเข้าออกภายในหมู่บ้านหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เชื้อโควิด 19 แพร่ระบาดขยายตัวกระจายออกไปเป็นวงกว้าง โดยหมู่บ้านดังกล่าว คือ บ้านมาบสมบูรณ์ บ้านมาบนาดี ม.18 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมทั้งมีการยกระดับพื้นที่ในหมู่บ้านดังกล่าวให้เป็นพื้นที่สีแดง ที่ต้องเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังจากมีประชาชนผู้มีอาชีพเก็บหาของป่าในหมู่บ้านเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 แต่ไม่แสดงอาการมากถึง 13 ราย และมีผู้ติดเชื้อในลักษณะเดียวกันจากภายนอกหมู่บ้านอีกจำนวน 6 ราย ขณะเดียวกันหลังจากมีการประกาศคำสั่งจากทางอำเภอให้ปิดหมู่บ้านดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ส่งตัวแทนโดยมอบหมายให้ นายวรรณา รอดพิทักษ์ รอง นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมคณะนำเสบียงอาหารส่งไปช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อใช้ในการบริโภคในระหว่างถูกกักตัวแบบยกหมู่บ้าน ให้แก่ นายภานุพัฒน์ เพ็ดตะกั่ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 18 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ในทันที ประกอบด้วยข้าวสาร 50 ถุง ไข่ไก่สด 3,000 ฟอง และมีการมอบเจลแอลกอฮอล์จำนวน 300 ขวด และที่ตรวจวัดอุณภูมิร่างกายแบบมีขาตั้ง 1 ชุด ให้แก่ นางจิตติมา นันทา ประธาน อสม.หมู่ 18 เพื่อใช้ประโยชน์ภายในหมู่บ้าน ระหว่างการกักตัวในพื้นที่สีแดง ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด และมีการสวอปตรวจหาเชื้อเชิงรุกเพื่อควบคุมโรคจากประชาชนจำนวนกว่า 500 คนในหมู่บ้าน ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจาก นายธนกฤต พันธ์สิงห์สอน อายุ 36 ปี ชาว ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เจ้าของกิจการเอสเอ็มอี (SME) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงกลึง ที่รับงานผลิตจิ๊กและชิ้นส่วนให้แก่บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 10/2 ม.3 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 แบบซ้ำซาก จนทำให้ขาดสภาพคล่องไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าพื้นที่ตั้งโรงงานและกำลังจะถูกทางเจ้าของที่ดินนำกุญแจมาปิดล็อคโรงงานนั้นว่า ล่าสุดหลังจากที่ตนได้เดินทางมาบนบานขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อโสธร ที่บริเวณประตูรั้วพระวิหาร สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จำลองไว้ ตั้งแต่ในวันแรกที่มีคำสั่งจากทาง จ.ฉะเชิงเทรา ให้ทำการปิดพระอุโบสถ์ และพระวิหารหลวงพ่อโสธร เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 นั้น ปรากฏว่าขณะนี้ได้มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือต่อลมหายใจ ให้ธุรกิจของตนสามารถขยับเดินต่อไปได้อีกครั้งแล้ว ด้วยเงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าเช่าที่ดินจำนวน 7.2 หมื่นบาท และส่วนที่เหลือใช้จ่ายเป็นค่าน้ำค่าไฟ จึงทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ซึ่งถือเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากบารมีขององค์หลวงพ่อโสธรอย่างแท้จริง ทั้งที่ในวันแรกที่ตนเดินทางมายังที่วัดหลวงพ่อโสธรนั้น ตนสิ้นหวังและหมดหนทางที่จะแก้ไขปัญหาได้แล้ว ในวันนี้ (9 พ.ค.64) เมื่อเวลา 11.30 น. จึงได้นำครอบครัวเดินทางมายังที่วัดหลวงพ่อโสธรอีกครั้ง ในการมาแก้บนด้วยไข่ไก่ต้มจำนวน 400 ฟอง เพื่อไม่ให้มีอุปสรรคติดขัดใดๆ เกิดขึ้นอีก และขอให้ได้รับงานซึ่งเป็นโปรเจคชิ้นใหญ่มากขึ้น และให้ธุระกิจรอดพ้นจากภาวะวิกฤตในครั้งนี้ไปได้โดยตลอดรอดฝั่ง แม้หลวงพ่อโสธรจะไม่ได้ประทานความช่วยเหลือเป็นเงินทุนจำนวน 1 ล้านบาทตามที่ได้ร้องขอบนบานเอาไว้ก็ตาม แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ที่สามารถทำให้ธุรกิจโรงกลึงของตนเดินหน้าต่อไปได้อีกครั้ง นายธนกฤต กล่าว -จบ- สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา 081-4599442