เมิ่อวันที่ 9 พ.ค.นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวบอำนาจจากกฎหมายในการควบคุมสถานการณ์โรคระบาด 31 ฉบับ มาไว้ที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ แต่เพียงผู้เดียว รวมถึงตั้งตนเองเป็นประธานศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ ถนัดรวบอำนาจและใช้กฎหมายพิเศษในการดำเนินการ ทั้งเวนคืนอำนาจครม. ยึดอำนาจรัฐมนตรี รวบอำนาจจากกฎหมาย 31 ฉบับ ลดระดับมายึดอำนาจผู้อำนวยการเขตกทม. 50 เขต ใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการสาธารณสุข แก้ไขปัญหาโรคระบาด พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำในแบบที่ตนเองเชื่อและถนัดมาหมดแล้ว แต่การแก้ปัญหายังไม่เห็นสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ทั้งมิติของการจัดหาวัคซีน การเยียวยา มาตรการรัฐที่ออกมาไม่สอดรับกับสถานการณ์ เยียวยาไม่ตรงจุด ไม่มีประสิทธิภาพ ถึงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตั้งสติ หยุดคิด ทำไมถึงมีพรรคร่วมรัฐบาลออกมาฟ้องประชาชนว่ารัฐมนตรีถูกยึดอำนาจ ทำไมถึงมีส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาล ออกมาเรียกร้องให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล จนเกิดประเด็นความขัดแย้งในรัฐบาล ทำไมพรรคร่วมรัฐบาลถึงบอกว่าการแก้ปัญหาโรคระบาดโดยใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการสาธารณสุขไม่น่าจะประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่ศึกโรงพยาบาลสนามที่ยืดเยื้อฟ้องร้องกัน ทั้งที่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในฝ่ายหนุนรัฐบาลด้วยกันทั้งคู่ อย่าไอโอว่าแต่ฝ่ายอื่นสร้างความสับสน เพราะความสับสนวุ่นวาย ที่ส่งผลสู่การไร้เสถียรภาพส่วนใหญ่เกิดจากฝ่ายรัฐบาลเอง
“พล.อ.ประยุทธ์ อย่าถนัดแต่รวบอำนาจ ต้องกล้าแสดงความรับผิดชอบในกรณีที่ทำทุกอย่างตามความเชื่อและวิธีที่ถนัดของตนเองแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ต้องกล้าแสดงความรับผิดชอบในกรณีที่ล้มเหลวด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว