จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.30 น. จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงไล่ล่าสกัดจับรถเก๋งยี่ห้อ Honda city สีบอร์น ทะเบียน กบ 5698 ขนกัญชาอัดแท่งลอตใหญ่ 400 กิโลกรัม ซิ่งหนีการจับกุมที่บริเวณถนนมิตรภาพ กม.63 อ.ปากช่อง ผู้ต้องขับรถหลบหนีและเสียหลักพุ่งชนการ์ดเรล เสาไฟส่องสว่างบริเวณจุดกลับรถถนนมิตรภาพ กม.ที่ 63 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง เจ้าหน้าจึงทำการจับกุมนายเด่น มาตเหลือง พร้อมกัญชาของกลาง 400 กก. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตามไล่ล่ารถเก๋ง คันขนกัญญชานั้น ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Mazda 2 สีขาว ขับรถปาดหน้ารถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ในลักษณะช่วยเหลือไม่ให้ติดตามรถขนกัญชาได้ และพยายามชิงตัวนายเด่นฯ คนขับซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลางควบคุมตัวไว้ได้ก่อน จากการตรวจสอบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Mazda 2 สีขาว ขับหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงไล่ติดตามกว่า 20 กม.ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่วัดพระขาว ต.กลางดง     อ.ปากช่อง แล้วหลบหนีไปได้ ความคืบหน้าเมื่วันที่ 7 พ.ค.พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. สั่งการให้ ผบก.ป. จัดชุดสืบสวนตำรวจกองปราบปราม ตำรวจทางหลวง และศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ ทำการขยายผล ติดตามไล่มา ปิดคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เหิมเกริม อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จะทำให้เกิดความเสียหายหรือเป็นอันตรายแก่เจ้าหน้าที่และประชาชน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ รอง.ผกก.3บก.ป. ลงพื้นที่ร่วมกับ พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา และ พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ ผกก.สภ.ปากช่อง แกะรอยสืบสวนจนพบว่า รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Mazda 2 เป็นรถที่แก๊งผู้ต้องหาเช่ามาใช้คุ้มกันรถขนยากัญชา จนสามารถขออนุมัติออกหมายจับ นายอิสราหรือเก่ง  ระวิศรี และ น.ส.มะปรางหรือปราง ภาษิต ตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว จากการสืบสวนทราบว่า นายเด่นฯ และ นายเก่งฯ รู้จักกันในเรือนจำสีคิ้วเมื่อช่วงปี 2563 และรู้ช่องทางการซื้อ-ขาย กัญชาและยาเสพติด และเมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 2563 จึงได้ร่วมกันวางแผนขนกัญชาล็อตนี้มาจาก จ.บึงกาฬ โดย นายเก่ง และ น.ส.ปราง ทำหน้าที่ขับรถคอยตรวจตราและคุ้มกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าทั้งคู่มีความชำนาญและรู้วิธีการหลบหนี ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ค.64 ชุดสืบสวนแกะรอยโดยใช้สุนัขดมกลิ่ม ติดตามร่องรอยที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้ก่อนหลบหนีออกกำแพงด้านหลังวัดพระขาว ซึ่งเป็นป่ารกไม่มีผู้คนสัญจร และต้องเดินเท้าต่อออกไปยังบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ที่สร้างใหม่  ชุดสืบสวนได้ทำการปิดล้อมพื้นที่ปากช่องปูพรมหาค้นหา พบเบาะแสว่าผู้ต้องหาหนีขึ้นรถตู้ไปหลบซ่อนตัว ในพื้นที่ ต.ละเวี้ย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะหนีไปกบดานต่อที่พื้นที่ ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ยุทธวิธีกดดันทุกวิธี จนกระทั่งผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวตัวหาที่กบดานใหม่ โดยติดต่อเช่ารถตู้เพื่อเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ มาซ่อนตัวในพื้นที่แขวงสามเสน เขตพญาไท เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตาม ทราบว่า นายเก่งฯ และ น.ส.มะปรางฯ ได้เช่าเหมารถแท็กซี่ให้มาส่งที่ตลาด อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ต่อมาเมื่อวันที่วันที่ 7 พ.ค.64 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมีข้อมูลว่า นายเก่งฯ และ น.ส.ปรางฯ ผู้ต้องหาหนีมาซ่อนตัว อยู่ที่กระท่อมกลางนา หมู่ที่ 4 ต.ยอดแกง อ.นามน จว.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมจึงทำการปิดล้อมพื้นที่ปูพรมตรวจค้น พบตัว นายเก่ง ผู้ต้องที่กระท่อมกลางนา แล้วขยายผลติดตามจับกุมตัว น.ส.มะปราง ฯ ซึ่งแยกกันหลบซ่อนอยู่ในบริเวณป่าละเมาะห่างกันกว่า 3 กิโลเมตร สอบถามเบื้องต้น นายเก่ง และ น.ส.มะปราง ให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถนำและคุ้มกัน แจ้งหลักกิโลเมตรและเฝ้าระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย น.ส.มะปรางฯ ช่วยสำรวจเส้นทาง ให้นายเด่นฯ เป็นผู้ซุกซ่อนยาเสพติด ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท รับกัญชาจาก อ.เซกา จ.บึงกาฬ มาส่งในพื้นที่ กทม. ส่วนสาเหตุที่สกัดรถตำรวจทางหลวงเนื่องจากไม่อยากให้ นายเด่น ถูกจับกุม เพราะอาจขยายผลถึงพวกตน จึงพยายามสกัดกั้นรถตำรวจและพยายามชิงตัวนายเด่น ให้พ้นจากการจับกุม อย่างไรก็ตามเจ้ากน้าที่ตำรวจได้ขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป