ขบวนการสหกรณ์ร้องขอความเห็นใจ กฎกระทรวงเข้มงวด เกินสหกรณ์รับไหว ขอต่อลมหายใจ ปันผลสมาชิก ชะลอกฎกระทรวง ช่วยสถานการณ์โควิดภาคสหกรณ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) เปิดเผยว่า สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตามวิชาชีพต่างๆ เสนอแนวคิดช่วยเหลือสหกรณ์สมาชิก เตรียมยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เพื่อชะลอการออกกฎกระทรวงฯ ซึ่งตนมองว่ากฎกระทรวง ในส่วนของการดำเนินงานและการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2564 ซึ่งออกมาตามพระราชบัญญัติ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 มีความเหมาะสมในการกำกับการดำเนินกิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนให้สหกรณ์มี ธรรมาภิบาล สร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิก และพัฒนาความสามารถของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ แต่สำหรับการออกกฎกระทรวงเพื่อกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในส่วนที่เหลือ ตามความในมาตรา 89/2 แห่งพระราชบัญญัติ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการทำธุรกิจระหว่างสหกรณ์กับสมาชิก เช่น การกำหนดงวดชำระหนี้ และวงเงินการกู้ยืมของสมาชิก เป็นต้น ซึ่งได้มีการออกระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ล่วงหน้าไปก่อนกฎกระทรวงนั้น อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารงานสหกรณ์และอาจทำให้สมาชิกสหกรณ์ไม่สามารถกู้เงินเพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงภาวะการระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่หน่วยงานกำกับภาครัฐเข้มงวด ส่งผลให้สหกรณ์ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิกสหกรณ์ได้ นอกจากนี้ ร่างกฎกระทรวงตามความในมาตรา 33/1 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ที่กำหนดประเภทธุรกิจที่สหกรณ์แต่ละประเภทจะดำเนินการได้นั้น อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญฯ ที่กำหนดให้รัฐพึงส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครองและสร้างเสถียรภาพให้แก่ระบบสหกรณ์ ซึ่งน่าจะมีการพิจารณาโดยรอบคอบและให้ประชาชนในขบวนการสหกรณ์ได้มีส่วนร่วม แต่การออกกฎกระทรวงดังกล่าว จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ดังนั้น สันนิบาตสหกรณ์ฯ และขบวนการสหกรณ์จึงจำเป็นที่จะต้องขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้ชะลอและเลื่อนการออกกฎกระทรวงส่วนที่เหลือตามความในมาตรา 33/1 และมาตรา 89/2 ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติมออกไปอีก 1 ปี นับแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เพื่อต่อลมหายใจให้สหกรณ์สมาชิกสมาชิกสามารถดำเนินงานต่อไปได้