เมื่อวันที่ 8 พ.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป. ร.ต.อ.แดนรบ สมัยชูเกียรติ ร.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นิลมิตร ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว.กก.6 บก.ป. ชุดปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกันจับกุมนายทิชานนท์ หรือบ่าว อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ จ.172/2563 วันที่ 9 ก.ค. 63 ในข้อหา ความผิดต่อชีวิต, ความผิดต่อเสรีภาพ, ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ลหุโทษ ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (หลบหนีคดีไม่ฟังคำพิพากษาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ, พาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ)ได้ที่บริเวณ ถ.จังโหลน ซ.18 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุฆ่านายปรีชา อายุ 17 ปี โดยอำพรางศพด้วยการใช้เชือกมัดศพ และห่อด้วยผ้าแสลนสีเขียว ขุดหลุมฝังศพลึกลงไปในดินประมาณ 1 เมตรภายในกุโบร์ (สุสานฝั่งศพ) บ้านบ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งภายหลังมีชาวบ้านเข้ามาพบว่าบริเวณดังกล่าวมีร่องรอยสัตว์คุ้ยเขี่ยจนเท้าผู้ตายโผล่ขึ้นมา ชาวบ้านจึงได้เเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ พบว่าศพเป็นศพของนายปรีชา ซึ่งทางญาติได้เเจ้งหายไป ตั้งเเต่วันที่ 26 พ.ค. 62
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า มูลเหตุน่าจะเกิดมาจากการทะเลาะวิวาทและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้จำนวน 4 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือนายทิชานนท์ หรือบ่าว ฉายา “บ่าว สะกอม” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 206/2562 ลงวันที่ 5 มิ.ย. 62 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีเหตุนควร ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดในเมืองในหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ติดตามจับกุมตัวนายทิชานนท์ ไว้ได้ที่หน้าด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งระหว่างดำเนินคดีนายทิชานนท์ ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่หลังจากนั้นกลับหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดศาลจังหวัดนาทวี จึงได้ออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อติดตามตัวนายทิชานนท์ มาดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่น ถูกศาลตัดสินจำคุก คนละ 10 ปี เศษ และได้ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีสอดคล้องกันว่า คนที่ลงมือยิงและฆ่านายปรีชา คือนายทิชานนท์ หรือ บ่าว
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ทำการสืบสวนติดตามจนทราบเบาะแสว่า นายทิชานนท์ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งติดกับชายแดนประเทศ มาเลเซีย ในพื้นที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากรั้วเขตแดนประมาณ 500 เมตร จึงได้วางแผนนำกำลังเข้าทำการปิดล้อมจับกุมควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดนาทวี ดำเนินคดีต่อไป จากสอบสวนนายทิชานนท์ ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีศาลพิพากษาตัดสินจำคุก 33 ปี โดยไม่รอลงอาญาก้มหน้ารับกรรม