จากกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบขยายการให้วัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวคในคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ โดยจะให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่อไปนั้น
วันที่ 8 พ.ค. นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 กล่าวว่า การอนุญาตให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคในคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวเข้าถึงวัคซีนในช่วงที่ยังไม่มีวัคซีนของแอสตราเซนเนกา ซึ่งจะเป็นวัคซีนหลักของไทยตั้งแต่ มิ.ย.เป็นต้นไป แต่ใน ช่วง พ.ค.มีแต่วัคซีนของซิโนแวค ซึ่งขณะนี้มีการระบาดมาก
โดยเฉพาะในเขตชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ กทม. ก็ต้องเร่งฉีดในกลุ่มบุคคลเสี่ยง ซึ่งผู้สูงอายุก็เป็นกลุ่มเสี่ยง การจะรอแอสตร้าฯ ใน มิ.ย.คงไม่สามารถรอได้ ประกอบกันทางการจีนมีข้อมูลศึกษาวิจัยว่า ฉีดในคนอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ด้วย จึงต้องคลายล็อกตรงนี้ เพื่อนำไปฉีดในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ จะช่วยลดการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังฉีดรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุไปแล้ว แต่ยังต้องทำงานช่วยตรงนี้ นับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถฉีดซิโนแวคได้เช่นกัน
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนผู้ที่จองวัคซีนในระบบหมอพร้อมในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคจะได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา เพราะจะมีวัคซีนนี้ถึง 16 ล้านโดสใน มิ.ย. และ ก.ค.64 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับวัคซีนแอสตราเซนเนกาเป็นหลัก ยกเว้นในช่วงที่ไม่มีวัคซีนชนิดนี้ และมีแต่วัคซีนของซิโนแวค หรือ แพทย์ที่ดูแลใช้ดุลพินิจว่าผู้สูงอายุคนนี้สมควรได้รับวัคซีนซิโนแวค
“เดือน พ.ค. ที่ยังไม่มีวัคซีนของแอสตร้าฯ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ ก.พ.จนถึงปัจจุบันมีวัคซีนซิโนแวคลงพื้นที่ทั่วประเทศไปแล้ว 2.5 ล้านโดส และ พ.ค. นี้จะมาอีก 3.5 ล้านโดส แบ่งเป็นต้นเดือน พ.ค. 1 ล้านโดส กลางเดือนอีก 5 แสนโดส และปลายเดือนนี้อีก 2 ล้านโดส รวมเป็น 3.5 ล้านโดส ส่วน มิ.ย. จะเป็นวัคซีนแอสตราเซนเนกา ที่จะส่งมอบตามแผนการบริหารจัดการวัคซีน ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังที่ทำการจองการฉีดวัคซีนผ่านระบบ “หมอพร้อม” หรือทางรพ.จะเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา” นพ.โสภณกล่าว