วันนี้ ( 8 พ.ค.64) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กลุ่มตัวแทนผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับนายอรรถพล ผิวอ่อน พ่อค้าร้านขายของชำ หลังตกเป็นเหยื่อถูกหลอกรับซื้อรถ แต่เมื่อซื้อไปแล้วนายอรรถพลกลับไม่ยอมผ่อนต่อ และเชิดรถหนีไป มีคนตกเป็นเหยื่อไม่น้อยกว่า 11 คน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
นายวีระพันธุ์ มาลัย หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองประกาศขายรถยนต์ฮุนไดผ่านทางเพจเฟซบุ๊กประกาศขายรถยนต์ แล้วนายอรรถพลก็ติดต่อมาขอซื้อ มีการทำสัญญาจะซื้อจะขาย โดยสัญญาว่าจะผ่อนเป็นงวดๆ แต่ไม่ได้ทำการโอนมอบกรรมสิทธิ์ โดยนัดส่งมอบรถกันที่บ้านนายอรรถพล ภายในซอยแจ้งวัฒนะซอย 10 แต่หลังจากส่งมอบรถให้นายอรรถพลผ่อนให้เพียง 2 เดือน จากนั้นเดือนที่ 3 เป็นต้นมา ก็เริ่มผิดนัดชำระ และอิดออดไม่ผ่อน ก่อนจะไม่รับโทรศัพท์ ปิดไลน์ ปิดเฟซบุ๊ก เมื่อไปติดตามทวงถาม ก็พบว่านายอรรถพลย้ายบ้านหนีไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ทำให้บังเอิญเจอกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกันเป็นจำนวนมาก โดยแจ้งความกับสน.บางเขน และสน.ทุ่งสองห้องรวม 11 ราย ยังไม่รวมผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกหลายรายที่เตรียมเข้าแจ้งความ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 คน
ทั้งนี้ จากการตรวจจับสัญญาณจีพีเอสรถทั้ง 11 คัน พบว่ามีอย่างน้อย 4 คันถูกใช้งานในพื้นที่นครราชราชสีมา นนทบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี ส่วนบางคันถูกนำไปจำนำในเต้นท์รถมือสองย่านดอนเมือง และชลบุรี ซึ่งผู้เสียหายเชื่อว่านายอรรถพลเมื่อได้รถไปแล้วก็จะนำไปขายในราคาถูก หรือไม่ก็นำไปจำนำ และทำเป็นขบวนการ
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายก็ยอมรับว่าพวกของตนเองก็มีส่วนผิดที่นำรถติดไฟแนนซ์ไปขาย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านการเงิน จึงจำเป็นต้องขายรถออกไป คนร้ายจึงอาศัยช่วงสถานการณ์นี้ซ้ำเติม จึงอยากเตือนคนทั่วไปอย่าพลาดแบบตนเอง ขายรถติดไฟแนนซ์ต่อบุคคลที่ 3 โดยเด็ดขาด และวอนขอให้นายอรรถพลนำรถมาคืน