วันที่ 8 พ.ค. 64 เวลา 11.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้บริหาร กระทรวง พม.ลงพื้นที่สีแดง จุดที่ 1 ณ ชุมชนโค้งรถไฟยมราช เขตราชเทวี เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 117 ชุด ให้กับกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส ในชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งพบปะให้กำลังใจเครือข่าย พ.ม และชาวชุมชน ภายใต้กิจกรรม "เรามีเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทีมประเทศไทยจะตามไปช่วย" ที่จุดที่ 2 ณ ชุมชนวัดญวน (คลองลำปัก) และชุมชนซอยลูกหลวง 8 เขตดุสิต เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 44 ชุด จุดที่ 3 ณ ชุมชนหลังบ้านมนังคศิลา และชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว เขตดุสิต เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 37 ชุด และจุดที่ 4 ณ ชุมชนวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จำนวน 100 ชุด ทั้งนี้ ชุมชนทั้ง 4 จุด เป็นพื้นที่สีแดงที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก และมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19 ในวงกว้าง
นายอนุกูล กล่าวว่า ตามนโยบายของกระทรวง พม. เรื่องการเปิดศูนย์ปฏิบัติการ ผ่านสายด่วน พม. โทร. 1300 ของศูนย์ช่วยเหลือสังคม เป็นช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนและร้องทุกข์จากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยกระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น และช่วยประสานส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งได้มีการเร่งระดมขอรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคและของใช้ที่จำเป็น เพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยกระทรวง พม. บูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชน ภาคเอกชน และทีมประเทศไทย บูรณาการลงพื้นที่ช่วยเหลือร่วมกัน
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามของรัฐบาล ภายใต้โครงการ "เรามีเรา" ได้ลงพื้นที่ 4 จุด ซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤตที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงเยี่ยมพื้นที่ในเขต กทม. ทั้ง 50 เขต เนื่องจากปลัดกระทรวง พม. (นางพัชรี อาระยะกุล) เป็นคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนในเขต กทม. และปริมณฑล ที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากโรคโควิด-19 ซึ่ง กระทรวง พม. มีหน้าที่ดูแลกลุ่มคนเปราะบาง และจะจับมือกับพันธมิตร และ กทม. ลงพื้นที่บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกัน ทั้งนี้ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะพยายามลงพื้นที่ให้ครบ
นายอนุกูล กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งมีหลายกลุ่ม ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้บ้าน และคนไร้ที่พึ่ง ทางกระทรวง พม.ได้เตรียมจัดสถานที่รองรับไว้หลายพื้นที่ ทั้งในเขต กทม.และปริมณฑล สามารถรองรับได้ประมาณ 450 คน และมีการเตรียมมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัว โดยให้หน่วยงานกระทรวง พม. ในส่วนภูมิภาคเตรียมสำรวจผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนคนในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 เราจะให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น และด้านต่อมาคือการช่วยเหลือเรื่องอาชีพของครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. (นายจุติ ไกรฤกษ์) และปลัดกระทรวง พม. (นางพัชรี อารายะกุล) กำลังเร่งวางแผนการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ภายหลังวิกฤตครั้งนี้ ภายใน 2-3 เดือน
ด้านนางสมบุญ แตงน้อย ประธานชุมชนโค้งรถไฟยมราช กล่าวขอบคุณกระทรวง พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีความห่วงใยและเข้ามาช่วยเหลือชุมชนในครั้งนี้ ซึ่งมีชาวชุมชนอาศัยอยู่ประมาณ 700-800 คน โดยมีประชากรแฝงประมาณ 300 คน ขณะนี้ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก มีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพค้าขายและรับจ้าง แต่ไม่สามารถออกไปตลาดที่ปิด เพื่อทำมาหากินได้ อีกทั้งมีค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในครอบครัว ในขณะที่เด็กๆ ต้องอยู่บ้าน ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ซึ่งทำให้ชาวชุมชนบางส่วนต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด.
นอกจากนี้ยังมี เครือข่ายศิลปิน อพม . อาสา ศตวรรษ เศรษฐกร และเพื่อน ๆ ร่วมลงพื้นที่ มอบสิ่งองและให้กำลังใจ แกนนำในชุมชนอีกด้วย